Category ข่าววันนี้

4 หนุ่ม F4 Thailand

ต้นสังกัด GMM TV ร่อนจดหมายชี้แจงการสัมภาษณ์ 4 หนุ่ม F4 Thailand ที่กรุงไทเป

สังกัด GMM TV ร่อนจดหมายชี้แจงการสัมภาษณ์ 4 ชายหนุ่ม F4 Thailand ที่กรุงไทเป

จากกระแสในโลกออนไลน์เกี่ยวกับนักแสดงนำ F4 อย่าง “ไบร์ท, วิน, ดิว และ นานิ” บินไปงานแฟนมีตติ้งที่ประเทศไต้ หวัน และในบางตอนบางตอนมีรายงานข่าวสารว่านักแสดงกินบิสกิตระหว่างการสัมภาษณ์ รวมทั้งมาสาย และไม่มีการขออภัยที่มาช้า ผู้จัดบอกเพียงแค่แต่ว่าเกิดจากความล่าช้า เพราะแต่งหน้าทำผม รวมทั้งมีอีกหลายข้อความสำคัญตามที่ข่าวได้เสนอไป

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ในเวลาต่อมาแฟน ๆ ผู้คนจำนวนมากเกิดคำถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นประสานงานคลาดเคลื่อนหรือไม่ พร้อมแท็กไปยังสังกัดให้ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้

ปัจจุบันสังกัด GMM TV ได้ร่อนจดหมายชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า…

“จากกรณีที่มีการพูดถึงในสื่อโซเชียลเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ของนักแสดง ที่กรุงไทเป เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัทขอชี้แจงดังต่อไปนี้

1. ประเด็นเรื่องการมาสัมภาษณ์ล่าช้า การสัมภาษณ์ได้เกิดการล่าช้ากว่ากำหนดการจริง เนื่องมาจากไฟล์ทบินดีเลย์ จึงทำให้สัม ภาษณ์ล่าช้ากว่าเวลาที่นัดหมาย โดยทางผู้จัดงานได้แจ้งกับนักข่าวให้ทราบล่วงหน้าแล้ว ทั้งนี้บริษัทขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นมา ณ ที่นี้

2. เรื่องพฤติกรรมไม่เหมาะสมของศิลปีนโดยมีการรับประทานขนมในระหว่างการสัมภาษณ์ เนื่องจากมีการเข้าใจผิดในการสื่อสารและประสานงานของทีมงาน ทำให้ศิลปินมีความเข้าใจว่าในช่วงต้นยังเป็นช่วงของการเตรียมความพร้อมและยังไม่ได้เริ่มถ่ายภาพและสัม ภาษณ์ จึงทำให้มี การรับประทานขนม ในช่วงเวลาระหว่างรอ ทั้งนี้เมื่อได้มีการ ชี้แจงให้ศิลปินทราบ ทางศิลปิน จึงเตรียมพร้อม ให้สัมภาษณ์ กับทางสื่อมวลชนต่อตามปกติ โดยทีมงานจึงได้แจ้งสื่อมวลชนขอให้ไม่ใช้ภาพดังกล่าว

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ศิลปินและบริษัทขอน้อมรับผิดที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจกับหลายๆ ฝ่าย และจะระมัดระวังไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต รวมทั้งจะมีการสื่อสารที่ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดต่อไป จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด 5 กุมภาพันธ์ 2566
และยังเขียนข้อความอีกว่า… “GMMTV ขอชี้แจงเกี่ยวกับประ เด็นการสัมภาษณ์ของนักแสดง ที่กรุงไทเป GMMTV Statement Regarding the Incidents During the Interview on February 4 in Taipei #GMMTV”

ต้นสังกัด GMM TV ร่อนจดหมาย

รู้จักซีรีส์สุดฮอต F4 Thailand นักแสดงมีใครบ้าง-เรื่องย่อเป็นอย่างไร?

กำลังเป็นกระแสกล่าวถึงอยู่ในขณะนี้ สำหรับซีรีส์ F4 Thailand : BOYS OVER FLOWERS หัวใจรักสี่ดวงดาว โดยละครเรื่องนี้นับว่าเป็นละครอมตะตลอดกาล เรียกได้ว่าไม่มีเด็ก ๆ ยุค 90 คนไหนที่ไม่รู้จัก ซึ่ง หัวใจรักสี่ดวงดาว ของประเทศไทย ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขมาจากการ์ตูนมังงะญี่ปุ่น ของโยโกะ คามิโอะ ซึ่งมีชื่อเดิม สาวแกร่งแรงเกินร้อย ต่อมาได้ถูกดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์ของประเทศไต้หวัน ซึ่งเวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นที่โด่งดังเป็นอย่างมากในภูมิภาคทวีปเอเชีย กระทั่งมีรีเมกอีกครั้งในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แล้วก็ จีน

โดย F4 : BOYS OVER FLOWERS หัวใจรักสี่ดวงดาว ได้ถูกนำมารีเมกในประเทศไทยอีกที
นำแสดงโดย “ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี, วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร, นานิ-หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ, ดิว-จิรวรรตน์ สุทธิวณิชศักดิ์” สำหรับนางเอกคือ“ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล”

F4 Thailand : BOYS OVER FLOWERS หัวใจรักสี่ดวงดาว ออกอากาศทางช่องGMMTV
รวมทั้งย้อนหลังทางวิว ทุกวันเสาร์เวลา 20:30 น. ตั้งแต่วันที่ 18 เดือนธันวาคม ปีที่แล้ว

F4 Thailand

เรื่องย่อ “ F4 Thailand : BOYS OVER FLOWERS หัวใจรักสี่ดวงดาว”

เรื่องราวของ “กอหญ้า” (ตู-ต้นตะวัน) เด็กหญิงมัธยม5 ชีวิตเรียบ ๆ ง่าย ๆ คนหนึ่ง ครอบครัวของเธอมีฐานะที่อดอยาก จนถึงทำให้เธอต้องทำงานเสริมที่ร้านดอกไม้แห่งหนึ่งกับ “คะนิ้ง” (เล่นบทโดย พรีม-ชนิกานต์) เพื่อนสนิทของเธอ ชีวิตของกอหญ้าเป็นชีวิตที่เรียบง่ายและไม่มีอะไรเด่น
จะมีก็แค่อย่างเดียวคือเธอดันสอบติดโรงเรียนหรูชื่อดัง จน เธอกลายเป็นความหวังของครอบครัวอย่างช่วยไม่ได้ แต่โลกของนักเรียนไฮโซมันช่างคิด
รวมทั้งน่ารำคาญในสายตาของเธอ เธอเลยตัดสินใจที่จะดำเนินชีวิตเงียบ ๆ และไม่เด่นให้ได้มากที่สุด ซึ่งเป็นชีวิตที่ต่างกับพวกเขาอย่างสิ้นเชิง

“ธาม” (ไบร์ท-วชิรวิชญ์) “เร็น” ( ดิว-จิรวรรตน์) “กวิน” (วิน-เมธวิน) “เอ็มเจ” (นานิ-หิรัญกฤษฎิ์) กลุ่มรุ่นพี่มัธยม6 ในโรงเรียน ที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ F4 พวกเขาเป็นหนุ่มสุดหล่อลูกเจ้าของธุรกิจหลายหมื่นล้าน เป็นผู้ชายสี่คนที่แผ่รัศมีและมีอิทธิพลมากที่สุดในโรงเรียน ใคร ๆ ต่างก็จ้องไปที่พวกเขา
อีกทั้งที่ตามความจริงพวกเขาตั้งตัวเป็นอันธพาลในโรงเรียนอย่างลับ ๆ และพร้อมจะกลั่นแกล้งทุกคนที่ขวางหูขวางตาพวกเขาอย่าง
รุนแรง ผ่านเกม“การติดใบแดง” ไม่มีใครทำอะไ รพวกเขาได้ นักเรียน คนอื่น ๆ ก็ต่างเห็นดีเห็นงาม มองเห็นงามไปกับ พวกเขาด้วย
ประหนึ่งว่าโลกใบนี้อยู่ในกำมือ ของพวกเขาอย่างไร อย่างนั้น และกอหญ้าก็เกลียดสิ่งนี้มาก

แต่แล้วชะตากรรมก็นำพาให้เธอต้องยุ่งเกี่ยวกับพวกเขา อีกทั้งกับ “ธาม” ผู้นำของกลุ่มที่ดูราวกับจะสนใจในตัวเธอแล้วก็กลั่นแกล้งเธออย่างหนัก
อีกทั้งกับ “เร็น” ผู้ชายเงียบ ๆ โลกส่วนตัวสูงแต่กลับมีเสน่ห์บางอย่างที่ทำให้เธอหลงเสน่ห์

ต้นสังกัด GMM TV

และก็สุดท้ายคนอย่างเธอ

ก็กำลังจะกลาย เป็นศูนย์กลางของเรื่องราว ทุกอย่าง เป็นโลกอีกใบ ที่ทำให้เธอได้รู้ดีว่าชีวิตวัยรุ่นมันไม่เคยง่ายเลย รวมทั้งมันคงง่ายกว่านี้ ถ้า “เร็น” ไม่ได้ตกหลุมรัก “มิรา” ( ฟ้า-ยงวรี) รุ่นพี่ผู้หญิง ที่อีกทั้งสวย แถมยังอยู่ใน เชื้อสายที่สูงส่ง แล้วก็ใจดี
แตกต่างจากเธออย่างสิ้นเชิงและก็ถ้าเกิด “คะนิ้ง” ไม่ได้ตกหลุมรักหนุ่มเจ้าชู้ที่มองเห็นผู้หญิงทุกคนเป็นของเล่นอย่าง
“กวิน” และไม่มีวันหลงเสน่ห์ ผู้หญิงบ้าน ๆ อย่างเธอ และก็ ถ้าเกิด “ธาม” ไม่ได้ถูก คาดหวังจาก “รสลิน” (ซินดี้-สิรินยา) นักธุรกิจหญิงเหล็กแม่แท้ ๆ ของเขา ที่ไม่มีวันยอมชีวิตของ “ธาม” ออกไปนอกกรอบที่เธอได้วางเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความรัก แต่ “กอหญ้า” เองก็กลับค่อย ๆ ใจเต้นแรงกับ
“ธาม” แบบไม่รู้ตัว

หากว่าชีวิตวัยรุ่นคือตอน วัยที่แผ่รัศมีมากที่สุด นี่คือเรื่องราวของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่กำลังจะผ่านตอนวัยรุ่นอันแสนเจิดจ้านี้ไปท่ามกลางหนุ่มน้อยที่ทุกคนสังเกต ก้าวผ่านอุปสรรค ความผิดพลาด มิตรภาพ กำลังใจ ความสุข ความทุกข์ และได้เรียนรู้สิ่งที่เรียกว่า ความรัก ก่อนที่พวกเขาจะประสานมือก้าวไปสู่โลกของผู้ใหญ่ไปพร้อม ๆ กัน

รัฐประหารใน พม่า

2 ปี รัฐประหารพม่า อำนาจในเงื้อมมือทหาร คำมั่นจัดเลือกตั้ง แค่เรื่องจอมปลอม

ผ่านไป 2 ปี รัฐประหารใน พม่า จากมือพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย คนออกคำสั่งการทหารสูงสุดเมียนมา นำกำลังทหารเข้ายึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนของออง ซาน ซูจี ภายหลังพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ชนะการลงคะแนนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 เดือนพฤศจิกายน 2563 อย่างถล่มทลายกระทั่งครองเสียงข้างมาก จัดเตรียมจะเปิดสัมมนาสภาครั้งแรกภายใน 90 วัน

ท่ามกลางกลิ่นรัฐประหารโชยมา แล้วก็แล้วหลังจากนั้นก็เป็นจริง เมื่อกองทัพอ้างความชอบธรรมในการก่อรัฐประหารเมื่อเช้าตรู่ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 กล่าวว่า มีการทุจริตออกเสียง และก็เข้าจับกุมตัวออง ซาน ซูจี รวมถึงนักการเมืองที่เกี่ยว ส่วนอีกผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยสามารถแอบหนีไปได้ รวมทั้งภายหลังได้ตั้งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ มาจากหลากหลายชาติพันธุ์ เพื่อคานอำนาจกองกองทัพเมียนมา

พลเอกรัฐประหารใน พม่า รัฐประหาร สงครามพม่า
การก่อรัฐประหาร พม่า นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 1 ปี

แต่งตั้งพล.อ.มินต์ ส่วย รองประธานาธิบดี ทำหน้าที่ประธานาธิบดีรักษาการ ต่อมามีการขยายสถานการณ์ฉุกเฉินเป็น 2 ปี 6 เดือน และก็ยังส่งผลให้เมียนมาเกิดการนองเลือดทั่วแผ่นดิน ผู้เห็นต่างถูกจับกุมตัว สูญเสียชีวิต หายสาบสูญ และพลัดถิ่นอาศัย ซึ่งข้อมูลของ ACLED มีการเฝ้าดูความร้ายแรงในหลายประเทศ กำหนดมีผู้เสียชีวิตในเมียนมาราว 1.9 หมื่นคน

2 ปีผ่านไป กับเสียงปืนเสียงระเบิดที่ พม่า

การสู้รบเพื่อกำจัดผู้เห็นต่าง บริเวณแนวชายแดนติดกับไทย มีเป็นระยะ ๆ สร้างความหวาดสะดุ้งให้กับชาวไทยที่อาศัยในพื้นที่ ยังไม่รวมเหตุการณ์ความร้ายแรงที่อาจถูกปกปิดไม่ออกมาสู่โลกภายนอก และต้องจับตาดูท่าทีกองทัพเมียนมา จะจัดการลงคะแนนไม่เกินเดือน เดือนสิงหาคม 2566 นี้ ตามที่ให้คำมั่นหรือไม่ หลังออกกฎข้อบังคับใหม่ให้เอื้อต่อพรรคสหภาพสามัคคีและก็การพัฒนา ซึ่งเป็นผู้แทนทหาร

แต่อาจไม่ง่าย เพราะว่าสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อระบบประชาธิปไตย มองว่าเป็นเรื่องจอมปลอม
และถ้าหากมีออกเสียงจริง ก็จะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ซึ่งสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของ

พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย

“ศ.กิตติคุณ ดร.ไชยวัฒน์ ค้ำชู” นักวิชาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เพราะเรื่องการจัดการเลือกตั้งของกองทัพเมียนมา ตามข้อสมมติฐานต่างเชื่อกันว่าเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับทหารเมียนมา จะต้องทำตามรัฐธรรมนูญกำหนด หลังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสิ้นสุดไปเมื่อสิ้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยการจัดเลือกตั้งใหม่ ได้วางเงื่อนไขให้ลงทะเบียนพรรคใหม่ จะต้องมีสมาชิกพรรค 1 แสนคนขึ้นไป และมีสาขาของพรรคจำนวนครึ่งหนึ่งของประเทศ ทำให้พรรคฝ่ายตรงข้ามมีปัญหาเรื่องความพร้อม

“การเลือกตั้งภายใต้รัฐบาลทหาร จะแพ้ไม่ได้ จะต้องมีวิธีการของตัวเอง แต่หากจัดเลือกตั้งไปแล้ว มีความไม่ชอบมาพากล ความชอบธรรมไม่เกิดกับประชาชน ถูกต่อต้านไม่หยุด และไม่ยอมให้ต่างชาติมาสังเกตการเลือกตั้ง เพราะกฎกติกาไม่เป็นธรรมกับคู่แข่ง ก็เป็นไปตามข้อสมมติฐานเชื่อว่าการเลือกตั้งเป็นเรื่องสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง และความรุนแรงจะเกิดขึ้นอีก หากไม่แก้ปัญหาอย่างแท้จริง”

ทั้งยังฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน เพื่อแก้วิกฤติแล้วก็ยุติความร้ายแรงในเมียนมา ยังไม่มีการดำเนินการอะไรก็ตามทำให้ปราศจากความน่าไว้วางใจ ไม่เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ แล้วก็คนภายในประเทศ จนกระทั่งประชาคมโลกไม่ไว้วางใจว่าการลงคะแนนในลักษณะนี้จะไขปัญหาความไม่ถูกกันในเมียนมาได้ แล้วก็รัฐบาลทหารเมียนมาต้องทำอะไรให้มากกว่านี้ เพื่อให้ผลการออกเสียงมีความยุติธรรม

ระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่กองทัพ พม่า มีการรัฐประหาร ยังคงไม่ได้ รับการยอมรับ จาก นานาชาติ และก็อาเชียน ก็ไม่ยินยอม ให้ผู้แทนเมียนมา เข้าร่วมสัมมนา เนื่องจากไม่ สามารถทำให้ นานาชาติ ไว้เนื้อเชื่อใจ ทำให้การออกเสียง ไม่สนองตอบอย่าง แท้จริง ว่า รัฐบาลทหาร เมียนมา ตั้งมั่น ในหลักระบบประชาธิปไตย รวมทั้งเมื่ออยู่ในอำนาจ ก็สามารถทำอะไรก็ได้ อย่างที่ผ่านมา ไม่เคยสนใจ นานาชาติ บางทีก็อาจจะ ไม่จัดเลือกตั้งก็ได้ รวมทั้งขยายสถานการณ์ รีบด่วนออกไปอีก เพราะว่าต้องการยึดอำนาจให้อยู่ในเงื้อมมือทหาร

“คิดว่ากองทัพเมียนมามั่นใจ จะกลับมามีอำนาจได้ จากการ เลือกตั้ง หากหมดอำนาจลง ก็จะเสียประโยชน์หลายๆ อย่าง เป็นเหตุผลไม่ยอมลง จากอำนาจง่ายๆ หากโดน ตรวจสอบภายหลังก็จะเสียผลประโยชน์ และการเลือกตั้งภายใต้รัฐบาลทหารเมียนมาไม่มีหลักประกันใดๆ เลย เพราะพฤติกรรมในอดีตไม่น่าเชื่อถือ ไม่ได้สร้างให้คนเห็นในความบริสุทธิ์ใจ ให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายต่อต้าน และเมื่อคนไม่เชื่อใจ ก็มองเป็นการเลือกตั้งจอมปลอมอยู่แล้ว หากจะให้ยอมรับต้องทำตามกฎหมาย ไม่ควรตุกติก”

พรรคสันนิบาต

หรือตราบใดที่นักโทษทางการเมืองยังถูกจับรวมทั้งถูกจองจำ

จะทำให้การชิงชัย ออกเสียงไม่ยุติธรรม และนักการเมืองของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ก็ยากจะชิงชัยอย่างเท่าเทียมกัน หากจะลงคะแนนเสียงควรทำอย่างตรงไปตรงมา ต้องเลิกคุมสื่อ เลิกคุมการเคลื่อนไหวของประชาชน

แต่ก็ทำไม่ได้ เนื่องจากจะถูกล้มล้างอำนาจโดยประชาชนที่เคยถูกปราบปราม ทำให้การลงจากหลังเสือลำบาก จากการละเมิดสิทธิมนุษยชน จัดการกับฝ่ายตรงข้าม และที่สุดแล้วรัฐบาลทหารพม่าจะอยู่ไปอีกยาว จนถึงประเทศเดินถอยหลัง ทำให้ภูมิภาคของเรามีประเทศถูกตราหน้า กระทบต่อชื่อเสียงของอาเซียนไม่จบสิ้น

เต้ย MyStyle

สุดเศร้า "เต้ย MyStyle" เน็ตไอดอลชื่อดัง ป่วยซึมเศร้า จบชีวิตในรถเก๋ง

“เต้ย MyStyle” เน็ตไอดอลมีชื่อ ป่วยซึมเศร้า ก่อไฟรมควันดับคารถเก๋ง ขณะที่ “แม่” เดินทางมาดูศพก่อนเป็นลมร่ำไห้

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 28 มกราคม 2566 ร.ต.ท.กาจน์พศุตม์ พรวัฒนศิริกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนตายภายในรถเก๋งที่จอดอยู่ในซอยศุขประยูร 1 หมู่ 9 ตำบลนาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจสืบสวน สภ.เมืองชลบุรี แล้วก็กู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ เจอศพ นายวิษณุ ศรีสุวรรณ อายุ 27 ปี หรือ “เต้ย” เน็ตไอดอลโด่งดัง นอนเสียชีวิตบริเวณที่นั่งคนขับภายในรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า 3 สีขาว โดยเบาะหลังมีเตาอั้งโล่และถุงใส่เสื้อผ้ากับถุงถ่านวางอยู่ด้วย

เต้ย MyStyle ป่วยซึมเศร้า

ต่อมา นางสาวสกุลรัตน์ จันทร์สมปอง อายุ 48 ปี มารดาคุณเต้ย

ได้เดินทางมาบริเวณจุดเกิดเหตุ พอเห็นศพก็ร่ำไห้แล้วเป็นลมไปทันที ด้านกู้ภัยฯ ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และเผยว่า ลูกชายเคยบอกป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แต่ไม่เคยรู้ไปรักษาโรงพยาบาลไหน ส่วนยาที่กินนั้นก็ไม่เคยเห็น ต้องตรวจสอบในห้องนอนอีกรอบ แต่เขาเคยพูดว่าเป็นหนี้จำนวนมาก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นหนี้จากอะไร

จากการซักถามชาวบ้านที่อยู่ในซอยนั้น เปิดเผยว่า เห็นผู้ตายขับรถมาจอดตั้งแต่ตอนเช้า รวมทั้งไม่ได้ออกไปไหน แต่ช่วง 10 โมง
ยังมีความคิดเห็นว่าเปิดกระจกรวมทั้งนั่งอยู่ในรถติดเครื่องอยู่ ก็ไม่ได้สงสัยอะไรเนื่องจากจอดรถไม่ได้กีดกั้นทางไปมา รู้อีกทีก็มีความคิดเห็นว่าจอดนานถึงมืดมีความรู้สึกว่าหลับ จึงพากันไปเรียก เขย่ารถแต่ไม่ตื่น ซึ่งเปิดรถออกมาพบว่าเสียชีวิตแล้ว

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นตำรวจจะสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต และก็ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดอีกรอบ แต่ทางมารดาเปิดเผยว่า ไม่ติดใจการเสียชีวิตของลูกชายแต่อย่างใด เชื่อลูกเครียด

เน็ตไอดอล เสียชีวิต
เปิดโพสต์สุดท้าย “เต้ย MyStyle” ก่อนตัดสินใจ จบชีวิตตัวเองในรถ

อาลัย “เต้ย” เน็ตไอดอลชื่อดังเสียชีวิตแล้ว พร้อมเปิดโพสต์ใจความสุดท้าย ก่อนตัดสินใจจบชีวิตในรถเก๋ง

จากกรณี นายวิษณุ ศรีสุวรรณ หรือ “เต้ย” เน็ตไอดอลชื่อดัง อายุ 27 ปี ป่วยโรคซึมเศร้า จบชีวิตในรถเก๋ง สร้างความตกใจให้กับบรรดาเพื่อน ๆ แล้วก็แฟนคลับจำนวนมาก

ขณะที่ เฟซบุ๊กของ “เต้ย” ได้โพสต์ภาพพร้อมเนื้อความสุดท้ายไว้เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 เป็นภาพขณะนอนป่วยที่โรงพยาบาล พร้อมระบุว่า “ไม่ตื่นมาอีกเลยซะยังดีกว่า”

ทั้งนี้ ได้มีเพื่อน ๆ และแฟน ๆ เข้ามาโพสต์แสดงความเสียใจต่อการจากไปของคุณเต้ยกันจำนวนมาก อาทิเช่น RIP หลับให้สบายนะครับ ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี, ขอให้ไปสู่สุคตินะ ตอนนี้เพื่อนๆ มามอบกำลังใจกันเต็มเลย จากนี้ไปขอให้มีความสุข, โชคดี สักวันเราคงได้พบกัน, ขอให้เส้นทางใหม่ที่คุณตัดสินใจเลือกเดิน จงมีแต่ความสุข ความปลอดภัย อย่าได้พบเจอกับความเสียใจ เจ็บปวดอะไรอีกเลยนะ เป็นต้น

เต้ย MyStyle เน็ตไอดอล

“เต้ย Mystyle” คือใคร? เปิดโพสต์สุดท้ายก่อนถูกเจอเสียชีวิต

ทำความรู้จัก “เต้ย” ดาวทวิตเตอร์ เน็ตไอดอลชื่อดัง เปิดโพสต์สุดท้ายก่อนถูกพบเสียชีวิต

เป็นอีกหนึ่งข่าวที่สร้างความตกใจเป็นอย่างมาก หลังจาก “เต้ย” ถูกพบว่า เสียชีวิตภายในรถเก๋ง โดยมีแถลงการณ์ว่า มีผู้พบเจอรถต้องสงสัยจอดติดเครื่องยนต์
ภายในซอยมนต์ชัยเจริญยนต์ ม. 9 ตำบลบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี เกรงเมื่อพยายามเรียกคนภายในรถก็ไม่มีการตอบสนอง ต่อมากู้ภัยได้ทำการงัดรถเพื่อให้การช่วยเหลือ เมื่อเปิดรถออกมาก็พบว่า มีกลิ่นควันคละคลุ้ง เจอเต้ย นอนเสียชีวิตที่เบาะคนขับ

เต้ย Mystyle หรือ นายวิษณุ อายุ 26 ปี เป็น ดาว tikok ดาวทวิตเตอร์ เน็ตไอดอลชื่อดัง
ทำคลิปยูทูป เป็นคนที่สนุกสนาน ทำคอนเทนต์ตลก หน้าตาดี พูดจาดีโดยเป็นคนดังในกลุ่ม LGBTQ+

โพสต์สุดท้ายก่อนเสียชีวิต

เต้ย ได้โพสต์รูปรวมทั้งใจความในเฟซบุ๊ก เป็นภาพนอน โรงพยาบาล มี สายน้ำเกลืออยู่ที่มือ พร้อมใจความสลดว่า “ไม่ตื่นมาอีกเลยซะยังดีกว่า” ซึ่งหลังจากข่าวการเสียชีวิต ทำให้มีแฟน ๆ แล้วก็ ชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์แสดงความเสียใจต่อการจากไปอย่างต่อเนื่อง

เดอะ เบทเทอร์

ทายาทรุ่น 2 รพ.เกษมราษฎร์ จับมืออดีต บก.โพสต์ทูเดย์ ปั้นสำนักข่าวใหม่ "The Better"

เปิดตัวสำนักข่าวใหม่ “เดอะ เบทเทอร์” อดีต บก.โพสต์ทูเดย์จับมือผู้สืบสกุลรุ่นที่ 2 เครือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และก็ผู้ครอบครองสถาบันสอนการลงทุน ปั้นสื่อออนไลน์ พร้อมกอง บก.ล้วนเป็นอดีต บก.ข่าวโพสต์ทูเดย์ เน้นข่าวเศรษฐกิจและการลงทุน ด้วยทุนสำหรับจดทะเบียน 20 ล้าน

25 ม.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท เดอะ เบทเทอร์ นิวส์ จำกัด

ได้ทำพิธีเปิดสำนักข่าวที่ชื่อว่า เดอะ เบทเทอร์ (The Better) ที่ห้องเพิร์ลโดม อาคารเพิร์ลบางกอก ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ซึ่งสำนักข่าวดังกล่าวได้วางรูปแบบให้เป็นสำนักข่าวด้านเศรษฐกิจแล้วก็การลงทุน หลังจากได้เปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กเพจเป็น The Better news เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2565

และเริ่มเสนอรายละเอียดไปเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา

สำหรับ บริษัท เดอะ เบทเทอร์ นิวส์ จำกัด มีนายกันตพร หาญพาณิชย์ ทายาทรุ่นที่ 2 ของบริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเครือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์

และโรงพยาบาลเวิลด์ เมดิคอล พร้อมกับ นายกระทรวง จารุศิระ ผู้ริเริ่มโครงการซูเปอร์ เทรดเดอร์ ไทยแลนด์ (Super Trader Thailand) และก็นายวุฒิ นนทฤทธิ์ อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ รวมทั้งโพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นกรรมการบริษัท

นายกันตพรกล่าวว่า ตนไม่ได้มีความคิดที่จะเข้าสู่ธุรกิจสื่อตั้งแต่ต้น แต่ปีที่ผ่านมาได้รู้จักกับนายวุฒิ เลยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสำนักข่าวแห่งนี้ โดยมีสองเรื่องหลักที่ต้องการมองเห็น และนายวุฒิเห็นพ้องด้วย คือ เราต้องการทำสื่อที่ดียิ่งกว่า เพื่อประเทศไทยที่ดียิ่งกว่าในอนาคต ซึ่งนายวุฒิมีประสบการณ์ด้านข่าวสารกว่า 30 ปี กับการนำเสนอ
ในช่องทางที่ดีมากกว่า ซึ่งเป็นไปตามยุคตามสมัย สามารถเข้าถึงกลุ่มคนสมัยใหม่ที่จะขับเคลื่อนประเทศในอนาคต

เปิดตัวสำนักข่าวใหม่ เดอะ เบทเทอร์

อีกเรื่องหนึ่ง คือ นายวุฒิยืนยันความเป็นกลางของสำนักข่าว

ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญของสำนักข่าว การที่สำนักข่าวเป็นกลางนั้นพูดง่าย แต่ความเป็นกลางในความหมายของแต่ละคนบางทีอาจแตกต่างกัน สำหรับตนไม่ได้หมายความว่าพูดถึงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่ากันแล้วเรียกว่าเป็นกลาง แต่เป็นการนำเสนอความจริงบนหลักฐานที่ปรากฏชัดเจน ไม่มีการชี้ทางของผู้นำเสนอ ซึ่งหมายถึงผู้สื่อข่าวหรือสำนักข่าว ซึ่งจะมีประโยชน์แก่ประชาชนที่จะสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจให้เกิดคุณประโยชน์สูงสุด

ด้านนายกระทรวงกล่าวว่า โดยส่วนตัวรู้จักกับนายวุฒิหลายปี นับว่าเป็นพี่ชายและผู้ใหญ่ที่เคารพรักที่สุด พอทราบว่านายวุฒิมีไอเดียที่จะทำสำนักข่าวแห่งใหม่ ตนก็เลยสนใจ เพราะว่าในมุมของตนเองทำสถาบันสอนการลงทุน รู้ดีว่าคนไทยหลายคนแสวงหาวิชาความรู้ ตนเป็นคนอีกคนหนึ่งที่พยายามจะไม่เสพข่าวอาชญากรรม ไม่ชอบอ่านข่าวชาวบ้าน ก่อนหน้านั้นก็จะอ่านข่าวสารเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน เอสเอ็มอี เนื่องจากว่าคิดว่าสามารถพัฒนาตนเองแล้วก็มีความรู้และความเข้าใจมากขึ้น

พอเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง จึงรู้สึกว่าเราสามารถที่จะพัฒนาตนเองให้มีความเข้าใจมากขึ้น ผ่านการอ่านสื่อที่มีคุณภาพ เมื่อปณิธานของนายวุฒิและตนตรงกัน ก็บอกว่าในมุมของการทำสถาบันสอนการลงทุน มีลูกลูกศิษย์หลายพันคน มีคนที่เก่งในการลงทุนหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน จะนำวิชาความรู้ทั้งหมดบนโลกที่เกี่ยวกับการเงิน การลงทุนมาเผยแพร่ ซึ่งเมื่อความต้องการตรงกันก็เลยเป็นพันธกิจที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งที่จะถ่ายทอดองค์วิชาความรู้ให้ทุกคนได้มีความคิดเห็นว่าทำไมต้องพัฒนาความสามารถในตัวเรา เพื่อชีวิตที่ดีกว่าเดิม

ทายาทรุ่น 2 รพ.เกษมราษฎร์

ส่วนนายวุฒิกล่าวว่า ตั้งแต่แมื่อวันที่เจอกับนายกันตพร

ถึงวันที่เริ่มตัดสินใจ ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเศษ นายกันตพรและนายกระทรวงเป็นคนสมัยใหม่ที่มีความตั้งใจแล้วก็เชื่อมั่นในสถาบันสื่อ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยดียิ่งขึ้น ที่ผ่านมาตนรวมทั้งทีมงานมีนายทุนหลายกลุ่มเสนอตัวสนับสนุน แต่สุดท้ายก็อยากจะอยู่กับนายทุนแบบใหม่จริง ๆ ที่ตัดสินใจทำธุรกิจโดยไม่ได้แสวงหาผลดีสูงสุดทางธุรกิจ ตนสบายใจที่มาเลือกทั้งสองคน

ทั้งนี้ สิ่งที่อยู่ในใจก็คือ ตนมีประธานที่ขอความเห็น คือ นาย ณ กาฬ เลาหะวิไลย อยู่ในวงการสื่อมา 35 ปี ตนมีประสบการณ์ 30 ปี ส่วนน้อง ๆ ประมาณ 25 ปี

ลดหลั่นกันไป ทุกคนทำข่าวที่เกิดขึ้นภายในประเทศขนาดนี้ เสียดายว่าเพราะเหตุไรเมืองไทยหยุดนิ่งอยู่เพียงนี้

เพราะเหตุใดความเจริญไม่พัฒนาก้าวไกลไปกว่านี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าการเสนอข้อมูลข่าวสารสารจากสื่อหลายสื่อ สื่อที่ดีมีมาก แต่สื่อที่มีคอนเทนต์แบบมีอคติก็มากมาย สื่อที่บางทีอาจเสนอข้อมูลไม่ครบถ้วนบริบูรณ์ก็มี เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมเกิดความสับสน ไม่ชัดเจน

ตนได้เรียนกับนายกันตพรและก็นายกระทรวงตั้งแต่วันแรกว่า ถ้าหากจะทำสำนักข่าว จะทำสิ่งแรกคือ เอาเรื่องจริงที่เป็นเรื่องจริงครบถ้วน ให้คนไทยทุกคน ทุกระดับมีสิทธิ์เข้าถึงความจริงอย่างเท่าเทียมกัน แล้วทราบดีว่าเรื่องจริงประเทศไทยเป็นยังไง ในด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมืองก็ตาม ทุกคนจะเอาสิ่งนี้ไปพัฒนาตัวเอง ยกระดับคุณภาพของครอบครัว สุดท้าย ธุรกิจเติบโต สังคมไทยดีขึ้น ประเทศไทยก็จะดียิ่งขึ้น เป็นคอนเซ็ปต์ที่ตั้งใจจะทำ แล้วก็ทีมงานทุกคนตั้งใจจริงที่จะนำเสนอข้อมูลเหล่านี้

ทายาทรุ่น 2

รายงานข่าวเพิ่มเติมบอกว่า เดอะ เบทเทอร์

สำหรับโครงสร้างของสำนักข่าวเดอะ เบทเทอร์ มีนาย ณ กาฬ เลาหะวิไลย อดีตบรรณาธิการอำนวยการเครือบางกอกโพสต์ เป็นประธานที่ปรึกษา มีนายวุฒิ นนทฤทธิ์ อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ รวมทั้งโพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการบริหาร พร้อมกับ นายวิษณุ นุ่มทอง อดีตบรรณาธิการข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

และก็อดีตผู้ช่วยบรรณาธิการ โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการข่าวสารการเมือง

นายชนิกา สุขสมจิตร อดีตหัวหน้าข่าวเศรษฐกิจมหภาค หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ แล้วก็อดีตหัวหน้าข่าวเศรษฐกิจ โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการข่าวสารเศรษฐกิจ, นายเกียรติศักดิ์ ผิวเกลี้ยง
อดีตผู้สื่อข่าวการเงินหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และอดีตหัวหน้าข่าวการเงินโพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการข่าวการเงิน และ นางสาวดวงใจ จิตต์มงคล เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ทำหน้าที่สร้างสรรค์เนื้อหาข่าวสารเศรษฐกิจและธุรกิจการตลาด

ข้อมูลที่ได้รับมาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า บริษัท เดอะ เบทเทอร์ นิวส์ จำกัด ขึ้นทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 ทุนเพื่อการจดทะเบียน 20 ล้านบาท มีนายวุฒิ นนทฤทธิ์

รวมทั้งนายกระทรวง จารุศิระ เป็นกรรมการบริษัท ซึ่งกรรมการเซ็นชื่อผูกพัน มีนายวุฒิ นนทฤทธิ์ หรือ นายกระทรวง จารุศิระ

เซ็นชื่อร่วมกับ นายกันตพร หาญพาณิชย์ หรือ นางสาวชาลิสา พอใช้ได้ หรือ นางสาวลักษมีลาวัลย์ หาญพาณิชย์ รวมเป็นสองคนแล้วก็ประทับตราสำคัญของบริษัท วัตถุประสงค์ธุรกิจตอนจดทะเบียน ประกอบกิจการโรงพิมพ์ มีที่ทำการที่ซอยรามคำแหง 53 เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

แดนนี่ ขึ้นมาแย่งไมค์ นักร้อง

"แดนนี่ บ้านโยก" รับผิดแย่งไมค์ "ขอแบบไม่ได้ขอ" พอจบรายการลำบากถึง "แจ๊ส ชวนชื่น"

แดนนี่ จากกรณี คลิปสุดร้อน ในโลกออนไลน์ ที่ผู้ใช้ เฟซบุ๊ก ชื่อ Wanchai Pokpon ได้โพสต์เล่า เหตุการณ์ ถูกชายหนุ่ม คนหนึ่ง ซึ่งสวมเสื้อฮู้ดสีดำ ขึ้นมาแย่งไมค์

นักร้อง ของวง ขณะกำลัง ทำการแสดง ในร้านอาหาร แห่งหนึ่ง และยังไปแย่งเอาเบส มาเล่นบนเวที ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรง มีการด่าทอหนุ่มในคลิปว่า ไม่มีมารยาท และ

กลายเป็น ประเด็นถกเถียง รุนแรงขึ้นอีก เมื่อหนุ่มในคลิป ออกมาอัดคลิปลง TikTok ตอบโต้ชาวเน็ต ที่เข้ามาด่าทอ พูดว่าผู้ที่ตามด่าทอตนและเพื่อนๆ มีมารยาทมากนักหรือ? มีอะไรก็ให้มากล่าวกับตนคนเดียว เพื่อนคนอื่นๆไม่ได้เกี่ยวด้วย

แดนนี่ บ้านโยก
ล่าสุด รายการโหนกระแส เชิญทั้งสองฝ่ายมาบอกคุยถึงประเด็นร้อนแรงในรายการ

โดยทางวง เล่าเหตุการณ์ว่า ไปเล่นดนตรี ในผับแห่งหนึ่ง ที่แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ จู่ๆพี่ผู้ชาย ในคลิปก็เดินขึ้นเวที แบบไม่บอกไม่กล่าว มาดึงไมค์ไปจากมือ บอกให้ตน อยู่เฉยๆ

แล้วหลังจากนั้นก็เอาไมค์ไปร้องแบบในคลิป หลังร้องจบ ยังไปถาม นักดนตรีในวงว่า เล่นเพลงนั้น เพลงนี้ได้ไหม ก่อนที่จะบอกให้เล่นเพลง “แดงกับเขียว” ของ ไททศมิตร แล้วก็มาเอาเบส จากมือเบสไปเล่น แถมยังเล่นผิดคีย์ จนทำให้นักร้อง ร้องตามเพลงไม่ได้

ในขณะที่ แดนนี่ RS บ้านโยก หนุ่มแย่งไมค์ ยอมรับผิดว่า ในวันเกิดเหตุ ตนดื่มจนกระทั่งเมา ด้วยความที่ เคยเล่นดนตรี เคยร้องเพลงอยู่ที่ร้านของตนเอง

มาก่อน พอทางวง เล่นเพลงที่ชอบ ก็เลยขอขึ้นไปร้อง แต่ก็ยอมรับว่าเป็นการ “ขอแบบไม่ได้ขอ” ส่วนเรื่องเล่นเบส แดนนี่เล่าว่า ตนไปถาม นักดนตรีว่าเลยเพลงนั้น เพลงนี้ได้ไหม เขาก็

บอกว่าเล่นไม่ได้ สุดท้ายถามคำถามว่าเล่นเพลง “แดงกับเขียว” ของ ไททศมิตร ได้ไหม ทางวงพูดว่าเล่นได้ ก็เลยเดินไปขอมือเบสว่า “ขอยืมเบสหน่อย” ยืนยันว่าบอกดีๆโค้งหัวให้ด้วย ซึ่งก็ยอมรับว่าเวลาที่เล่นเบส เล่นผิดคีย์จริงๆ

รายการโหนกระแส

แดนนี่ บอกอีกว่า
หลังจบเหตุการณ์ ในวันดังกล่าว ทางวงเขา ไปโพสต์ต่อว่า ว่าตนไม่มีมารยาท มีชาวเน็ตหลายๆคนเข้ามาด่าตน ด่าถึงพ่อถึงแม่ หลายคนลามไปทักหาเพื่อนตน บอกให้เลิกคบ คนอย่างตน ทำให้ตนโกรธ ทำคลิปออกมาโต้ตอบอย่างที่ทุกคนเห็น ก็ยอมรับว่า ใช้คำพูดที่ไม่ดี แต่ด้วยความที่โกรธก็เลยทำไปแบบนั้น
แต่ว่าภายหลังจากพูดคุยกันในรายการ ทั้งสองฝ่าย ต่างก็เคลียร์กันจนกระทั่งเข้าใจ บอกว่าจะไม่ไปแจ้งความ
ฟ้องคดีอะไรกันอีก มีการขอโทษ ขอโพย กันด้วยดี ในขณะที่ หนุ่ม กรรชัย ยังตบท้ายในรายการ ฝากถึง ทีมงาน JOKER Family ของ แจ๊ส ชวนชื่น
บอล เชิญยิ้ม และ นุ้ย เชิญยิ้ม ขอให้ทำการคัฟเวอร์เหตุการณ์ในคลิปให้ดูหน่อย เพราะว่ารอดูอยู่

แดนนี่ บ้านโยกรายการโหนกระแส
หนุ่ม กรรชัย กับ แดนนี่ เรื่องเดียวที่ขอ… หลังจบดราม่าแย่งไมค์นักร้อง แจ๊ส-บอล-นุ้ย รับเรื่องด่วน !

เป็นดราม่า ที่ถูกกล่าวถึง ในโลกออนไลน์ไม่น้อยก่อนหน้านี้ กรณีหนุ่มเมา แย่งไมค์นักร้อง – ขอเบสนักดนตรี มาเล่นโชว์ ซึ่งถูกชาวโซเชียล ซัดเรื่อง
มารยาท ก่อนเจ้าตัว จะมีการโต้กลับกับชาวเน็ต จนมีประเด็นต่อ ก่อนที่จะออกมา เปิดใจเคลียร์เรื่องนี้กัน ในรายการ โหนกระแส วันที่ 23 มกราคม 2566 ซึ่งทั้งหนุ่มแย่งไมค์และทางวงก็ได้ขอโทษขอโพยกันและกันไปเป็นที่เรียบร้อย

Wanchai Pokpon

โดยภายหลังจากจบเรื่องดังกล่าว หนุ่ม กรรชัย ผู้ดำเนินรายการดัง ก็ได้กล่าวในช่วงท้ายของรายการว่า “สิ่งที่หวัง สำหรับเรื่องนี้ ไม่ได้หวังอะไรนะฮะ
หวังอย่างเดียวนะครับ อยากให้แจ๊ส ชวนชื่น โคฟเวอร์ เหตุการณ์นี้ หน่อยนะครับ พี่รอดูอยู่ บอล เชิญยิ้ม นะครับ ทุกคน คุณนุ้ย หลายๆท่านนะ ผมตามดูอยู่นะ”
งานนี้ทำเอาหลายๆคนอดจับตาไม่ได้ ขณะที่ บอล เชิญยิ้ม ก็ได้แชร์ ข้อความดังกล่าว ของ หนุ่ม กรรชัย พร้อมข้อความว่า “ได้ครับพี่หนุ่ม จัดให้ครับผม” ซึ่งแฟนคลับต่างก็บอก เป็นเสียงเดียวกันว่า รอดูเลย !

เม พรีมายา

เม พรีมายา เปิดใจหลังเข้ามอบตัว ลั่นพร้อมสู้คดี ยืนยันไม่มีเจตนาหลอกประชาชน

วันที่19 มกราคม เมื่อเวลา 16.00 น. น.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์ หรือ เม พรีมายา เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในชื่อแบรนด์ PRIMAYA (พรีมายา)
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 41/2566 ลงวันที่ 17 ม.ค. ในฐานความผิด โดยโกงหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือเลียนแบบไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน พร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2, เพื่อมอบตัวตามหมายจับ โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหา แล้วก็นำตัวไปสืบสวน

เม พรีมายาเปิดใจหลังเข้ามอบตัว ลั่นพร้อมสู้คดี

โดย น.ส.พิชญ์นรี หรือ เม พรีมายา กล่าวว่า

ตัวเองเข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 7 ปี เป็นคนทำงานและก็พัฒนาตัวเองในทางนี้ โดยยอมรับว่าแม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดเรื่องใดเรื่องหนึ่งบ้าง ตัวเองก็พร้อมแก้ไขแล้วก็ทุกอย่างจะเป็นไปตามกระบวนการพิสูจน์เรื่องจริง ซึ่งบางอย่างคนทำงานอย่างตัวเอง บางทีอาจจะผิดข้อตกลงหรือกฎกติกาบ้าง ก็ไม่ทราบจริง ๆ แต่รับรองว่าไม่มีเจตนาที่จะหลอกลวงใครในการทำงานทุกวันนี้

ส่วนหลักสำคัญการโฆษณาชวนเชื่อลงทุน 6,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้านบาทนั้น นางสาวพิชญ์นรี ระบุว่า ไม่ใช่โฆษณาคำชวนเชื่อ ทุกอย่างได้ให้การกับทางตำรวจแล้ว โดยธุรกิจของตัวเองไม่ได้สร้างเรื่องหลอกหรือชวนเชื่อแต่อย่างใด ซึ่งเชื่อว่า วันนึงทุกอย่างจะปรากฎขึ้นเอง

ขณะที่ นิ่ม เครือข่ายรายใหญ่แล้วก็คนสำคัญทางภาคใต้ มีส่วนร่วมในการสร้างเรื่องไหม ยืนยันว่า ทุกอย่างมีมูลความจริง

เมื่อถาม น.ส.พิชญ์นรี หรือ เม พรีมายา ถึงประเด็นผลกำไร

ที่ยื่นต่อพาณิชย์พบว่าไม่สอดคล้องกับที่โฆษณาสื่อโซเชียล รวมทั้งเงินลงทุนเป็นเงินผิดกฎหมายไหมนั้น ยืนยัน ไม่จริง เนื่องจากว่าตนเองทำงานอยู่หน้าบ้าน ไม่ได้รู้ดีเทลทุกอย่าง รวมทั้งจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ตัวเองไม่สามารถตอบไม่ได้ เพราะเหตุว่าไม่ได้รับผิดชอบในส่วนนี้ ที่ผ่านมาชีวิตตนเองสร้างสิ่งดี ๆ ให้กับสังคมแล้วก็คนรอบข้างตลอด

เม พรีมายาลั่นพร้อมสู้คดี

ด้าน พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. เผยออกมาว่า คดีนี้สืบเนื่องจากที่มีผู้มาฟ้องร้องร้องทุกข์ ประกอบกับตำรวจไซเบอร์ได้รับนโนบายให้ดำเนินการวิเคราะห์เพจที่มีการชักชวนลงทุนเกินความจริง
กระทั่งได้ไปพบว่า “พรีมายา” เข้าข่ายกรณีดังกล่าว ตำรวจก็เลยได้ตรวจดูแล้วก็หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
จนถึงสามารถขอศาลอนุมัติออกหมายจับได้เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา

และต่อมาพบว่าญาติของ น.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์ หรือ เม เจ้าของแบรนด์ แล้วก็หนึ่งในผู้ที่ถูกออกหมายจับ กำลังจะออกนอกประเทศ ทำให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. สกัดจับ รวมทั้งทางตำรวจไซเบอร์จึงต้องปฏิบัติการจับกุมตัวผู้ต้องหาที่เหลืออย่างเร่งด่วน แม้จะยังไม่มีผู้เสียหายมาร้องเรียน แต่ก็เป็นการปฏิบัติการก่อนที่จะเกิดความเสียหายขึ้น

ด้าน พลตำรวจตรี วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวมาว่า พฤติการณ์เป็นการโพสต์ชวนลงทุนจำนวนเงิน 6,000 บาท และจะได้ผลกำไร 15 ล้านบาท ภายใน 3 เดือน ซึ่งตำรวจไซเบอร์ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 11 หมาย แล้วก็จับกุมได้ 4 คนแล้ว ส่วนที่เหลือจะเร่งจับได้ครบภายในสัปดาห์นี้ หนึ่งในนี้ก็มีหน้าม้าที่เป็นต้นโพสต์ เชื้อเชิญมาลงทุนจนกระทั่งทำให้แบรนด์พรีมายาโด่งดัง

ซึ่งตำรวจจะต้องหาหลักฐานเพิ่มเติม

โดยได้อายัดเครื่องคอมพิวเตอร์รวมทั้งบัญชีธนาคารมาตรวจดู ว่าเป็นการหลอกลงทุนเกินใช่หรือไม่ ขณะที่รายงานการเสียภาษีเองก็ไม่ได้สอดคล้องกับผลกำไรที่โฆษณา

แต่เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ก่อน ส่วนข้อหาอื่นอยู่ระหว่างตรวจดูเพิ่มเติม ว่าลงทุนได้กำไรตามคำโฆษณาใช่หรือไม่ เป็นการลงทุนในลักษณะหลอกลวงไหม ขณะที่แฟนหนุ่มของเม ไม่ได้ถูกออกหมายจับ เพราะว่าไม่ใช่ผู้โพสต์ชักชวนลงทุน ส่วนหลังจากนี้ก็จะมีการขยายผลตรวจดูเพจชักชวนลงทุนอื่น ๆ ที่มีลักษณะชวนลงทุนเกินจริงเพิ่มเติม

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เส้นทางการเงินของพรีมายา เชื่อมโยงกับศิลปินนักแสดงกลุ่มนึง ตำรวจไซเบอร์ก็ขอดูพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อน

ดังนี้ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยียืนยันว่า
ที่มีการแชร์เรื่องจะมอบรางวัลนำจับ 5 แสนบาทให้ผู้แจ้งเบาะแสจับ เม ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้มีการตั้งเงินนำจับดังกล่าว แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นเฟกนิวส์

ลั่นพร้อมสู้คดี เม

ส่องชีวิตหรูของ CEO “เม พรีมายา”

สวย ร่ำรวย เก่ง กับไลฟ์สไตล์ปังกระทั่งผู้คนจำนวนมากอิจฉาริษยา ทีมข่าวสารขอพาทุกคนไปส่องชีวิต แล้วก็ไลฟ์สไตล์ของ CEO สาวคนนี้

ซึ่งสาวเม ชอบมีอัปเดตไลฟ์สไตล์สุดหรูหราในอินสตาแกรม ทั้งยังการเที่ยวต่างประเทศ บินโดยเครื่องบินส่วนตัว ในชุดแบรนด์เนมตลอดตัว ตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบจัดเต็ม ซึ่งต้องพูดว่าเป็นชีวิตที่ทำเอาใครต่อใครต่างอิจฉาไปตาม ๆ กัน

พื้นเพของ เม พรีมายา เป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช
เกิดเมื่อ 31 มีนาคม พ.ศ. 2537
ครอบครัวมีอาชีพทำสวน เธอเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฉบับหนึ่งว่า เธอเป็นบัณฑิตเกียรตินิยม ที่ได้สัมผัสเงิน 100 ล้าน ภายในเวลาเพียง 9 เดือน
ความสำเร็จของตนนั้นเกิดจากความขยัน และความเป็นนักสู้ที่เอาชนะทุกอุปสรรค

ดิว อริสรา

ดิว อริสรา โผล่ตอบแบบนี้ หลังเพจดังเปิดอีกมุมคดีพลิก ลั่นอย่าเพิ่งอวยยศ

จากกรณีที่ ดิว อริสรา ออกมาเปิดเผยปล่อยเบาะแสเด็ดฝากตำรวจจัดการที กับเว็บพนันชื่อใหญ่ มาเก๊า888 บอกใบ้มีพี่น้อง 4 คน ผู้ชายหมด ชื่อเล่น บ. ทั้งบ้าน น้องชื่อ บิ๊ก พึ่งหมั้นหมายวันนี้ กำลังจะแต่งงานวันที่ 22 มกราคม ที่จะถึงนี้ อัปเดตล่าสุดฝ่ายถูกเปิดโปงปิดเว็บชั่วคราว ปิดไอจี เฟซบุ๊ก รูปในงานหายเกลี้ยง และหลายท่านก็ได้โยงไปที่อดีตแฟนชายหนุ่มของสาวดิว

 

ดิวอริสราแฉ

ปัจจุบันมีเพจเฟซบุ๊กหนึ่งโพสต์ว่า

‘มึงอย่าเพิ่งอวยยศว่ามันเป็นกระบอกเสียงให้ ปชช. มันแค่ทะเลาะกับผัวเก่า แค่นั้น’
โพสต์นี้เองสาวดิวได้เห็นแล้ว และตอบคอมเมนต์ชาวเน็ตรายหนึ่งที่แสดงความคิดเห็นบอกว่า “จะพลิกได้ไง ถึงจะทะเลาะกันจริง แต่เปิดเว็บพนันก็ยังจริงกว่าอยู่ดี” สาวดิวตอบชัด ๆ ได้ใจความว่า “ใช่ค่า”
ซึ่งหัวข้อนี้ทางเจ้าหน้าที่มีการจัดการอย่างไรถัดไป ต้องรอติดตามกัน

ม้วนเดียวจบ! สรุปแฮชแท็กดิว อริสรา เปิดโปงเบาะแส ครอบครัวเว็บพนันดัง

กลายเป็นข้อความสำคัญร้อนบนโลกอินเตอร์เน็ต หลังจากดาราสาวมีชื่อเสียง “ดิว” ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Due Arisara” แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับครอบครัวเจ้าของเว็บพนันรายใหญ่ ที่กำลังจะจัดงานแต่งงานใหญ่โต คาดจะมีคนวงการเว็บพนันมาร่วมงานพร้อมหน้าพร้อมตา หลังจากทำเว็บพนัน
พร้อมแนะให้ตำรวจช่วยตรวจทาน ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าว สาวดิวก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในประเด็นที่เกิดขึ้น กระทั่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในขณะนี้
วันนี้ทีมข่าวจะพาทุกคนไปเกาะติดสรุปเรื่องราวประเด็นร้อนข้างต้น ที่กำลังถูกพูดถึงแบบม้วนเดียวจบ กับสรุปแฮชแท็ก #ดิวอริสรา จะเป็นอย่างไรบ้างตามไปฟังพร้อม ๆ กัน

เมื่อคืนนี้วันที่ 15 มกราคม เฟซบุ๊ก“Due Arisara” โพสต์เดือดชี้เป้าว่า
ครอบครัวหนึ่งทำเว็บพนันใหญ่ชื่อ มาเก๊า888 มีพี่น้อง 4 คน เป็นผู้ชายล้วน ชื่อเล่น บ.ทั้งบ้าน น้องชายเพิ่งหมั้นวันนี้และกำลังจะแต่งงาน 22 ม.ค.นี้
คาดว่าจะมีคนในวงการเว็บพนันไปร่วมงานแต่งถ้วนหน้า ฝากตำรวจทำงานด้วย แถมสาวดิวยังทิ้งท้ายว่า ไม่ผิดที่มีความรักและแต่งงาน แต่ผิดที่ทำธุรกิจสกปรกผิดกฎหมาย แล้วกล้าจัดงานใหญ่โตโชว์ความรวยที่ได้มาจากการหลอกเงินคนไทย

ดิว อริสรา ทะเลาะกัน ดิว เปิดเผย

อ่านข่าวเอ๊ะยังไง!’ดิว-อริสรา’ โพสต์แจ้งเบาะแสแก๊งเว็บพนันจ่อร่วมงานวิวาห์เจ้าของ ‘มาเก๊า888’

หลังจากโพสต์ดังกล่าวชาวเน็ตพุ่งเป้าไปที่ บ. อดีตคนรักของสาวดิว ซึ่งหลายอย่างตรงกับรายละเอียดที่ดิวโพสต์ ทั้งยังชื่อเล่น บ. มีพี่น้อง 4 คนชายล้วน และน้องชายเพิ่งจะจัดงานหมั้นวันนั้นพอดี แถมมีเพื่อนของดิวไปร่วมงานอีกด้วย

สำหรับชายหนุ่ม บ. ทำธุรกิจหลายอย่าง ได้แก่ ผับ ร้านอาหาร เป็นเจ้าของรถซูเปอร์คาร์หลายรุ่น และเป็นนักแข่งรถ
เคยคบหาดูใจกับสาวดิวช่วงปี 2562-2563 ตอนนั้นความรักทั้งคู่แฮปปี้จนเกิดแฮชแท็ก ……. ที่ย่อมาจาก “คนดีของใจ”

หลังจากนั้นปีกว่า ก็มีข่าวเลิกรากัน กับดิวได้เปิดตัวแฟนใหม่ ซึ่งก็คือ เซบาสเตียน นักธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ชาวไต้หวัน
ในช่วงเวลานั้น หลังจากดิวเปิดตัวแฟนใหม่ บ. ก็โพสต์เป็นนัยว่า “ไว้พบกันใหม่ในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่ทนอยู่กับสิ่งที่ทำร้าย”
ทำให้คนสงสัยว่าทั้งคู่อาจจบไม่สวย

โพสต์ของดิวกลายเป็นไวรัลไวรัล จนถึงพี่น้องบ.ได้ปิดโซเชียลทันทีหลังเกิดเรื่อง ด้านเจ้าสาวก็ปิดไอจีด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อน ๆ ที่ไปร่วมงานแต่งงานรวมไปถึง
ออแกไนซ์พากันลบรูปงานหมั้น บางคนตั้งไอจีเป็นไพรเวท หลังแล้วไม่นานด้าน “หนุ่ม กรรชัย” ได้กล่าวว่างานแต่งถูกเลื่อนออกไปเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ด้านโฆษกตำรวจออกมายอมรับว่า เรื่องเว็บพนันเจ้านี้ตำรวจมีข้อมูลอยู่แล้วและอยู่ระหว่างตรวจสอบขยายผลเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม
แต่ยังไม่ยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับคนที่ดิวชี้เป้าหรือเปล่า

ย้อนสัมพันธ์ ดิว – เบนซ์ เดม่อน จากรักหวานก่อนจบไม่สวย ล่าสุดมีข่าวใหญ่หูผึ่ง

ย้อนสัมพันธ์ ดิว อริสรา เบนซ์ เดม่อน จากคนดีของใจ รุ่นพี่ที่รู้จัก เลื่อนสถานะเป็นคนรัก ไม่มีรูปคู่แต่อยู่ด้วยกัน สุดท้ายจบไม่สวย
ดิวเปิดตัวคบเซบาสเตียน ส่วนเบนซ์โพสต์ มีแต่คนโง่ที่อยู่กับสิ่งที่ทำร้ายตัวเอง

เป็นข่าวใหญ่หูผึ่งกันจริงจัง เมื่อสาวดิว อริสรา ออกมาโพสต์แฉเว็บพนันโด่งดัง ว่า
คนที่อยู่เบื้องหลังเว็บนั้นกำลังจะจัดงานแต่งงาน แล้วก็งานนี้จะเป็นการรวมกลุ่มครั้งใหญ่ของแวดวงเว็บพนัน จนกระทั่งมีคนไปขุดประวัติกันมากมาย
กับโยงไปถึงเบนซ์ เดม่อน อดีตคนรักของดิวก่อนที่ดิวจะมาเจอกับ เซบาสเตียน ลี

ทั้งนี้ดิว อริสรา ได้เริ่มเปิดเผยเรื่องราวความรักของดิวรวมทั้งเบนซ์ เดม่อน ผ่านทางไอจี
ซึ่งเวลาที่ดิวไปถ่ายภาพ ก็มักจะติดแฮชแท็ก #kdkj ที่ย่อมาจาก คนดีของใจ จนกระทั่งคนไม่ใช่น้อยเฝ้ามอง ถึงกระนั้นภาพคู่ของดิวและก็เบนซ์ ก็มีเพียงแค่รูปเบนซ์เห็นหน้าครึ่งเดียว ไม่มีภาพคู่หวือหวาออกมา จะมีก็แค่ภาพเดี่ยวไปคอนเสิร์ต ที่ดูก็รู้ว่าไปด้วยกัน

 

ดิว แฟนเก่า

ดิว อริสรา ยอมรับ เบนซ์ เดม่อน เป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่ไฮโซ คบหากันเป็นปี จากรุ่นพี่สู่คนรู้ใจ

ด้านหลายท่าน ได้เข้าไปตามสืบ และพบว่า เบนซ์ เดม่อน ทำงานเป็นนักธุรกิจ มีรถหรูฟู่ฟ่า แต่งตัวด้วยแบรนด์เนม
แล้วก็เมื่อดิวได้ไปออกงานอีเวนต์ ก็ได้ยอมรับว่า เบนซ์เป็นนักธุรกิจ นักถ่ายภาพ แต่ไม่ใช่ไฮโซ ดิวคบหากับเบนซ์ในเป็นปี จากการที่ เบนซ์ เคยเป็นรุ่นพี่ จนตอนนี้ไม่ใช่ เวลาไปไหนเขาก็จะถูกใจถ่ายรูปให้ดิว ส่วนดิวก็ชอบถูกถ่ายภาพ รูปใส่บิกินี่ชุดที่มีไว้สำหรับใส่ว่ายน้ำเขาก็ช่วยสแกนให้ ถ้าเกิดเขาไม่ให้ผ่านก็ไม่ลง ส่วนเรื่องรูปคู่เห็นหน้าเบนซ์ชัด ๆ ก็แล้วแต่โอกาสจะได้ลง เพื่อน ๆ เองก็รับรู้การมีอยู่ของเบนซ์ ทุกคนแฮปปี้ที่ดิวแฮปปี้

นอกจากนั้น ดิวยังเคยยอมรับว่า มีความรักก็คาดหวัง ความรักกับเบนซ์ก็มองกันมากกว่าวันนี้ แต่บางครั้งก็อาจจะ
ไม่ถึงกับขนาดแต่งงาน คุยกันตลอดว่าไม่ได้คบกันเอาแค่วันนี้ เวลานี้ดิวอายุ 30 ปี คนที่เข้ามาก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ใช่คบกันเพื่อเลิกอยู่แล้ว

ล่าสุดฝ่ายถูกแฉปิดเว็บชั่วคราว

ดิว อริสรา เลิกกับเบนซ์ เดม่อน ไปคบ เซบาสเตียน เลิกรากันไม่ดี ทิ้งแคปชั่นไอจีไว้อย่างจี๊ด

จนกระทั่งสุดท้าย มีข่าวว่าดิว อริสรา เลิกรากับเบนซ์ เดม่อน ด้วยเหตุว่าต่างคนต่างอันฟอลโลไอจีซึ่งกันและกัน และก็จากนั้น ก็มีภาพของดิว ที่ถ่ายรูปคู่กับ เซบาสเตียน ลี สามีคนปัจจุบัน แล้วก็ ภาพที่ดิว แล้วก็เซบาสเตียน
ส่งพวงหรีด ไปงานศพงานหนึ่ง โดยใช้ชื่อคู่กัน หรือภาพที่ทั้งดิวและก็เซบาสเตียนไปดินเนอร์

ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีคนที่จับสังเกตได้ว่า ความเชื่อมโยงของดิว
และเบนซ์ คงจะสิ้นสุดกันตั้งแต่ที่ดิวกล่าวว่าไอจีโดนแฮก แล้วรูปหายหมด รวมถึงแฮชแท็ก #kdkj ก็หายไปด้วย ซึ่งมีคนกล่าวว่า ดิวนอนที่โรงพยาบาล แต่เบนซ์ไปเที่ยว เลยอาจเป็นเหตุให้เลิกราและก็ลบรูปออกไป แต่ตอบนักข่าวว่า โดนแฮกไอจี

เท่านั้นยังไม่พอ เบนซ์ เดม่อน ยังโพสต์ข้อความส่งท้ายให้กับความรักในครั้งนี้ว่า
“ไว้พบกันใหม่ในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละ ที่ทนอยู่กับสิ่งที่ทำร้ายตัวเอง”

R'Bonney Gabriel มิสยูนิเวิร์ส 2022

พูดดีมงลง รวมคำตอบของ "มิสยูนิเวิร์ส 2022" ที่ทำให้ฟาดมงกุฎ 200 ล้านไปครอง

“R’Bonney Gabriel” สาวสวยจากอเมริกา เป็นสาวสวยผู้คว้ามงกุฎ มิสยูนิเวิร์ส 2022 ครั้งที่ 71 ไปครอง โดยมงกุฎนั้น มีมูลค่าถึง 200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นมงกุฎมิสยูนิเวิร์สที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สำหรับความสวยของ R’Bonney Gabriel เรียกว่า ไม่ค้านสายตา แต่ว่าก็มีการกล่าวกันว่า ในการตอบคำถามของเธอนั้น เธอทำได้ดี โดยยิ่งไปกว่านั้น ในรอบ Top 3 ซึ่งเป็นรอบกวาดคะแนนโค้งสุดท้าย ซึ่งเราได้รวบรวมคำตอบของเธอ ตั้งแต่รอบ Top 5 มาจนกระทั่งรอบ Top 3 ก่อนที่จะประกาศผลของการตัดสิน มาให้ทุกคนได้โอกาสเดินทางสอบถามความคิดเห็นของมิสยูนิเวิร์ส 2022 คนปัจจุบันคนนี้กัน

คำถามในรอบ Top 5 เป็นการตอบคำถามจากการเลือกคำถามของตัวนางงามเอง และก็ มีเวลาตอบ 30 วินาที โดย R’Bonney Gabriel เลือกได้คำถามจาก Mara Martin หนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน โดยคำถามคือ

Mara Martin : การประกวดมิสยูนิเวิร์สก่อนหน้านี้ไม่นานนี้ ได้ให้โอกาสให้คุณแม่ รวมทั้ง ผู้หญิงที่สมรสแล้ว เข้าแข่งขันได้ อะไร คือ การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่คุณอยากมองเห็น และ เพราะอะไร

R’Bonney Gabriel : เรื่องอายุนางงาม สิ่งที่เป็นโค้ดเด็ดของฉัน คือ “ถ้าไม่ทำตอนนี้แล้วจะทำตอนไหน” อายุไม่ได้เป็นตัวกำหนด เราต้องลงมือทำในตอนนี้ ไม่ต้องรอ

สำหรับคำถามในรอบ Top 3 ซึ่งเป็นคำถามจากองค์กรนางงามจักรวาล และ ใช้คำถามเดียวกันกับนางงามผู้ผ่านเข้ารอบ 3 คนสุดท้าย โดยแต่ละคนมีเวลาตอบคำถาม 30 วินาที (ไม่รวมล่าม ถ้าเลือกใช้ล่าม) ซึ่ง R’Bonney Gabriel เธอนั้น ก็ตอบคำถามได้ดีอีกด้วยเหมือนกัน

คำถาม : ถ้าหากได้รับตำแหน่ง MU 2022 ในปีนี้ คุณจะดำเนินงานอย่างไร เพื่อส่งเสริมพลังอำนาจขององค์กรนางงามจักรวาล แล้วก็ ความก้าวหน้าขององค์กรฯ

น้ำตาล ชลิตา

“น้ำตาล ชลิตา” โพสต์ถึง “แอนนา เสืองามเอี่ยม” ภายหลังไม่เข้ารอบมิสยูนิเวิร์ส 2022

“แอนนา เสืองามเอี่ยม ” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ซึ่งเป็นตัวแทนสาวงามของประเทศไทย ร่วมแข่งขัน Miss Universe 2022 แม้ท้ายที่สุด เธอจะพลาดไม่ผ่านเข้ารอบการแข่งขัน แต่ทุกคนคงจะมองเห็นแล้วว่า เธอตั้งใจ มุ่งมั่น และ เตรียมตัวเป็นอย่างดี ตลอดมานั่น จึงพูดได้ว่า เธอทำดีที่สุดแล้ว

“น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 ซึ่งเป็นตัวแทนสาวงามเมืองไทย สำหรับเพื่อการแข่งขันมิสยูนิเวิร์ส 2016 รวมทั้ง เธอก็สามารถผ่านเข้ารอบ 6 คนสุดท้าย นั่นก็เท่ากับว่า เธอเป็นนางงามรุ่นพี่ของแอนนา

ถึงแม้ก่อนประกวดรอบตัดสินเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็เกิดกระแสดราม่าขึ้น เนื่องด้วย น้ำตาล ได้มีการโพสต์ข้อความคาดการณ์ Top 5 ของเวที Miss Universe 2022 แต่ไม่มีชื่อของแอนนา นั่นจึงให้ชาวโซเชียลเข้ามาคอมเมนต์กันจำนวนมาก และก็

ถัดมา น้ำตาล ก็ออกมาโพสต์เคลียร์ประเด็นดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ไปเรียบร้อยแล้ว

ล่าสุด น้ำตาล ได้ออกมาโพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “น้องเก่งมาก น้องทำหน้าที่ตัวแทนได้ดีมากๆ น้องชนะใจคนไทยทุกคน เป็นกำลังใจให้น้องกัน @annasnga_1o”

และก็ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ได้มีการโพสต์ว่า “หนูเก่งมาก”

นับเป็นกำลังใจจากรุ่นพี่นางงามที่น่าชื่นชม

แอน จักรพงษ์

ทรงพลังอย่างแรง “แอน จักรพงษ์” กับสปีชหยุดโลกบนเวที มิสยูนิเวิร์ส 2022

การแข่งขันรอบตัดสิน Miss Universe 2022 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 71ในนิวออร์ลีนส์ อเมริกา เสร็จสิ้นไปแล้ว คนจำนวนมาก โฟกัสไปที่ Miss Universe 2022 คนล่าสุด นั่นก็คือ “R’Bonney Gabriel” สาวสวยจากอเมริกา ซึ่งเราก็จะต้องขอแสดงความยินดีด้วยอีกครั้ง

อย่างไรก็ดี เพราะเหตุว่า ในปีนี้ การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ก็เกิดขึ้นกับองค์กรนางงามจักรวาล หรือ Miss Universe Organization (MUO) ด้วยเหตุว่า ผู้ที่เป็นเจ้าของคนใหม่ก็คือ”คุณแอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์”

ซึ่งนับว่าเป็นผู้หญิงคนแรกที่ครององค์กรนางงามจักรวาล และ บนเวทีแข่งขันรอบตัดสิน Miss Universe 2022 ครั้งนี้ เธอก็ขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์ทรงพลัง และก็ นับเป็นสปีชหยุดโลก ซึ่งเชื่อว่า จะโดนใจผู้หญิง และ ชาวโลกทุกคน โดยมีเนื้อหาว่า

“ฉันรักทุกคน ขอบคุณทุกคนที่มา เป็นเวลา 70 ปีแล้ว ที่องค์กรนางงามจักรวาลถือครองโดยผู้ชาย หมดเวลายุคของผู้ชาย ผู้หญิง ควรเป็นผู้นำ ถึงเวลาของผู้หญิงที่จะขึ้นบังเหียน แล้วก็เป็นผู้นำ ขอต้อนรับสู่แพลตฟอร์มใหม่ จะส่งเสริมพลังของผู้หญิงทั่วทั้งโลก

นำโดยผู้หญิง โดยหญิงข้ามเพศ เพื่อหญิงทุกคน เพื่อเฉลิมฉลองพลังแห่งสิทธิสตรีนิยม ความแตกต่างหลายทางวัฒนธรรมอันน่าภูมิใจ สังคมที่ไม่ยอมทิ้งใครไว้ข้างหลัง ความทัดเทียมทางเพศ ความสวยงามแห่งมวลมนุษยชาติ เมื่อครั้งที่ฉันเกิดมาเป็นผู้หญิงข้ามเพศ ฉันก็ถูกบูลลี่ และก็ ถูกคุกคามทางเพศ เคยถูกไม่ยอมรับจากสังคม

เนื่องจากว่า คนเหล่านั้น ไม่ต้องการที่จะอยากโอบอุ้มความแตกต่างหลากหลาย แต่ว่าคุณทราบไหม…ฉันรักคุณ จากก้นบึ้งของหัวใจ เพื่อจะไม่ยอมแพ้ ฉันเปลี่ยนความเจ็บปวดรวดร้าวให้เป็นพลังอำนาจ

รวมทั้ง เปลี่ยนบทเรียนเหล่านี้ในชีวิต ให้กลายเป็นสติ แล้วก็ ปัญญา เวทีแข่งขัน Miss Universe จะช่วยยกฐานะหญิงทุกคนให้เข้มแข็งมากพอ ดีพอ มีคุณสมบัติที่เหมาะสม และก็ ผู้หญิงจะไม่ถูกใช้เป็นวัตถุอีกต่อไป

นั่นก็เป็นที่มาของการที่ทำไม ฉันถึงได้ชี้แนะแนวคิดนี้ ในฐานะของเจ้าของ ภาวะการเป็นผู้นำ จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อผลักดันให้เกิดชุดคุณค่าที่ยั่งยืนขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส แล้วก็ เป็นมรดกส่งต่อในฐานะแสงสว่างนำทางไปสู่ความเจริญก้าวหน้าในอนาคต”

โดยบรรยากาศระหว่างการขึ้นกล่าวสุนทรพจน์นั้น เต็มไปด้วยเสียงร้องชื่นชมที่แอน จักรพงษ์ ขึ้นมากล่าวแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวของเธอให้ชาวโลกรับรู้

จิ๊บ คีตภัทร

แฟนคลับสุดคิดถึง เปิดภาพปัจจุบัน ‘จิ๊บ คีตภัทร’ นางเอกดังที่สวยเด่นไม่เปลี่ยนแปลง

จัดเป็นอีกหนึ่งดาราสาวสวยที่คนจำนวนไม่น้อยหลงรักเธอหนักมาก สำหรับสาว จิ๊บ คีตภัทร อันติมานนท์ ที่ฝากผลงานสุดปังเอาไว้อย่างมากมาย เป็นต้นว่า กามเทพลวง, กว่าจะรู้เดียงสา, หมอผีไซเบอร์, เบญจา คีตา ความรัก อื่นๆอีกมากมาย หากแม้ในขณะนี้เธอจะไม่ค่อยส่งผลงานแสดงออกทางหน้าจอให้ได้ดูกันเท่าไหร่ แต่บอกเลย แฟนคลับรักเธอ และนึกถึงหนักมาก

งานนี้เราเลยไม่พลาด เชิญทำความรู้จักสาว จิ๊บ เบาๆและพาไปชมรูปสวยๆของสาวจิ๊บกัน ที่บอกเลยว่า คุณสวย หุ่นดี และโดดเด่นไม่เปลี่ยนแปลงเลย โดยสาวจิ๊บเกิด|วันที่ 21 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2527 เป็นดาราคนไทยในสังกัดนักแสดงวิดีโอ และสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จิ๊บ เป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เป็นบุตรสาวคนเล็กของครอบครัว อันติมานนท์ เป็นนักแสดงสาวคนไทย ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้แสดงฝ่ายชายคือ จิม เจจินตัย แวนดิว

จิ๊บ มีผลงานเรื่องแรก เช่น กว่าจะรู้เดียงสา แสดงคู่กับ วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ เป็นที่รู้จักในบทบาท แว่นทิพย์ ซึ่งเป็นนางเอกใน ละครหลังข่าว เรื่องแรกเมื่อในปี 2543 และละครเรื่อง เจ้าสัวน้อย และผลงานที่แสดงคู่กับ วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ อีกเรื่องหนึ่ง ละครเรื่อง ลูกหลง ทำให้ คีตภัทร เป็นนักแสดงที่รู้จักกัน และโด่งดังในสมัยนั้น ถัดมา คีตภัทร รับงานละครหลายๆเรื่อง และเป็นการสลับบทเป็นนางร้าย และเป็นดาราที่มีคุณภาพ และมีความสามารถ ด้านการแสดงอีกคับคั่งนั่นเอง

โดยหลังจาก จิ๊บ เบาๆงานในวงการบันเทิงไป จากทางจอ ก็ทำเอาแฟนๆนึกถึงหนักมาก พากันมาส่องไอจีของเธอ และบอกรัก บอกคิดถึง รวมทั้งส่องชีวิตสุดปังของเธอ กันเป็นอย่างมาก

จิ๊บ คีตภัทร เปิดภาพปัจจุบัน

​​ทำความรู้จัก สวยเก่งครบสูตร จิ๊บ คีตภัทร อดีตนางเอกดังยุค 90

เป็นอีกหนึ่งดาราสาวสวย ที่ห่างหายจากวงการบันเทิงไปนานมากๆสำหรับ จิ๊บ คีตภัทรน้องสาวของศิลปินชายหนุ่ม จิม เจจินตัย อันติมานนท์ โดยทั้ง จิ๊บ และ เจจินตัย เป็นผู้แสดงที่ดังมากมายในยุค 90 หากคนไหนเคยดูละครดังช่อง 7 อย่างเรื่อง เบญจา คีตา ความรัก หรือ กว่าจะรู้เดียงสา มั่นใจว่าต้องคุ้นตา จิ๊บ คีตภัทรวันนี้ เราจะพามาทำความรู้จักจิ๊บ คีตภัทร กันอีกที เผื่อใครที่ยังไม่รู้จัก หรือ จำสาวคนนี้มิได้

คีตภัทร อันติมานนท์ ชื่อเล่น จิ๊บ

เกิดเมื่อวันที่ 21 พ.ย. พ.ศ. 2527

เป็นดาราหนังชาวในสังกัดดาราวิดีโอ และสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

จิ๊บ คีตภัทรเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ

เป็นบุตรสาวคนเล็กของครอบครัวอันติมานนท์

จิ๊บ เป็นดาราหนังสาวคนไทยซึ่งเป็นน้องสาวของ ดาราชายคือ จิม เจจินตัย อันติมานนท์

สำหรับเรื่องของการเข้าวงการบันเทิงของจิ๊บ คีตภัทร นั้น เธอเริ่มเข้าสู่วงการสายบันเทิงไทย เป็นผู้แสดงในสังกัดดาราวิดีโอ และสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

และส่งผลงานเรื่องแรกยกตัวอย่างเช่น กว่าจะรู้เดียงสา แสดงคู่กับ วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ เป็นที่รู้จักในบทบาท แว่นทิพย์ ซึ่งเป็นนางเอกในละครหลังข่าวเรื่องแรกเมื่อในปี 2543 และละครเรื่อง เจ้าสัวน้อย และผลงานที่แสดงคู่กับ วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ อีกเรื่องหนึ่งละครเรื่อง ลูกหลง ซึ่ง จิ๊บ มีผลงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้เธอเป็นดาราหนังที่รู้จักกัน และมีชื่อในยุคนั้น และอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้คุณเป็นที่รู้จักเป็นเรื่อง เบญจา คีตา ความรัก ซึ่ง จิ๊บ รับงานละครหลายๆเรื่องและเป็นการสลับบทเป็นนางร้ายและเป็นดาราหนังที่มีคุณภาพ และมีความสามารถด้านการแสดงอย่างมาก

พักหลังๆเธอได้เฟดตัวออกมาจากวงการบันเทิง และยังดำเนินงานมีธุรกิจส่วนตัว รวมถึงเธอยังมีธุรกิจส่วนตัวควบคู่ไปด้วย และนอกนั้น จิ๊บ ยังเป็นพาร์ทเนอร์ ร้านอาหารไทย ที่ชื่อ Noi Thai Cuisine Greenlake ที่ Seattle อเมริกา อีกด้วย ต้องพูดว่า สาวคนนี้ ทั้งสวย มากความสามารถ ครบสูตรจริงๆ

จิ๊บ คีตภัทร ปัจจุบัน

“จิ๊บคีตภัทร” จ่อฟ้อง! สับเละคนปล่อยข่าว นางเอก จ. กระทบครอบครัว-แฟน

หลังจากที่ผู้ใช้ ติ๊กต๊อก รายหนึ่ง ได้ออกมาเผยใจความว่า “มีข่าวหลุด!! อดีตนางเอกดังช่องหลายสี แอบไปซื้อหนุ่มนอกวงการกิน แล้วโดนหนุ่มอัดคลิปแบล็กเมล์ เรียกเงิน 4 แสน ล่าสุดมีคลิปหลุดออกมา เร็วๆ นี้เจ้าตัวเตรียมแถลงข่าวแน่นอน”

ต่อมา ก็ได้โพสต์อีกว่า “โดนแล้ว! อดีตนางเอกดังช่องหลายสี ชื่อย่อ จ. เข้าแจ้งความเอาผิดหนุ่มนอกวงการ หลังขายคลิปตนเองที่กำลังมีอะไรกัน ให้กลุ่มลับกลุ่มหนึ่ง ในราคา 4 แสนบาท ซึ่งความยาวคลิปเต็ม 21 นาที เห็นหน้าตัวเองชัดเจน เลยทำให้เกิดความเสียหาย เจ้าตัวลั่นไม่ยอมความ พร้อมเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”

จนทำให้ชาวเน็ตแอบทายกันไป ต่างๆนานา ว่าอดีตนางเอกจ. ช่องหลากสีคือใคร ซึ่งหนึ่งในนั้นแอบมีคนผุดชื่อขึ้นมา ว่าใช่ “จิ๊บ คีตภัทร อันติมานนท์” ดาราสาวสมัย 90 หรือไม่ ทำให้วันนี้ (13 ม.ค.) เจ้าตัวจะต้องรีบออกมาอธิบายผ่านไอจี ว่าตัวเองไม่ใช่คนภายในข่าวอย่างแน่นอน พร้อมจะดำเนินคดีตามกฎหมาย กับคนที่ทำให้ตนและครอบครัวได้รับความเสียหาย

“ขออนุญาตชี้แจงข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้นะคะ ว่าไม่ใช่จิ๊บแน่นอนค่ะ จากข่าวที่มีการใช้ชื่อหรือเจตนาใช้ภาพจิ๊บซึ่งทำให้ เกิดความเข้าใจผิดและเสียหายต่อตัวจิ๊บ ครอบครัว และแฟนเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เป็นความจริง ไม่ได้เกิดเรื่องและไม่ได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีใดๆ อย่างในข่าว จิ๊บมาหาครอบครัวที่อเมริกาเป็นเวลา 3 เดือนแล้วค่ะ อยากขอให้ทุกคนใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวส่วนผู้ที่ทำให้จิ๊บและครอบครัวได้รับความเสียหาย จะขอดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อรักษาสิทธิและ ความถูกต้องให้ถึงที่สุด ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่ส่งเข้ามานะคะ”

3 บัญชีม้า

3 บัญชีม้าตุ๋นเงิน ทํา ม.3 ฆ่าตัวตาย หลอกเก็งกําไร หมายจับ อีก 8 ราย ประเทศเพื่อนบ้าน

3 บัญชีม้า ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ ดีเดย์จับบัญชีม้าบุกรวบ 3 ผู้ต้องหารับจ้างเปิดบัญชีให้กับแก๊งต้มตุ๋นหลอกเด็กนักเรียนชาย มัธยม3 ลงทุนซื้อสินค้าทางออนไลน์

เพื่อเก็งกำไร ได้ผลตอบแทนสูง แอบนำเงินแม่โอนไป 14,000 บาท ในที่สุดโดนเท จึงตัดสินใจผูกคอตายสลด ครอบครัววอนขอความเป็นธรรม ก่อนนำไปสู่การออกหมายจับขบวนการรับจ้างเปิดบัญชี 8 ราย หนึ่งในผู้ต้องหาสารภาพเป็นผู้รับโอนเงินจากคนเสียชีวิต แล้วโอนต่อเป็นทอดๆไปยังบัญชีสกุลเงินดิจิทัล เจ้าหน้าที่เตรียมออกหมายแดงไล่ล่าต้นตอใหญ่ที่มีฐานที่มั่นประเทศเพื่อนบ้าน

ตำรวจไซเบอร์

นักเรียน ม.3 โดนมิจฉาชีพหลอกลงทุน

จากเหตุการณ์นักเรียนชายชั้น ม.3 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลงทุนซื้อสินค้า

ขายทางออนไลน์เพื่อเก็งกำไรที่อ้างมีผลตอบแทนสูง ทำให้เด็กเชื่อแอบนำเงินแม่รวม 14,000 บาท โอนให้กับผู้ร้ายกระทั่ง มารู้ทีหลังว่าถูกหลอก ก็เลยทวงเงินขอเงินคืน แต่ว่าไม่ได้ ตัดสินใจผูกคอตายลด หลังจากเกิดเหตุผู้ปกครองนำเรื่องเข้าร้องทุกข์ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ก่อนสั่งการให้ตำรวจไซเบอร์ (บช.สอท.) ตั้งคณะทำงานเปิดปฏิบัติการดีเดย์ตัดบัญชีม้าแก๊งต้มตุ๋นที่เชื่อมโยงโครงข่ายประเทศเพื่อนบ้าน

ดีเดย์จับบัญชีม้าบุกรวบ 3 ผู้ต้องหา

3 บัญชีม้า โดนตำรวจไซเบอร์จับกุม

ถัดมาเวลา 07.00 น. วันที่ 11 มกราคม พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2 บช.สอท.และพล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.ตอท.

พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี รรท.ผกก.2 บก.สอท.2 และ พ.ต.อ.มรกต แก้วสระคู ผกก.1 บก.สอท.2 นำกำลังเดินทางไป

จับกุม นางสาวนภาพร หอมจันทร์ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาได้ที่ อ.ท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือที่ใช้ทำความผิด หลังจากเจอหลักฐานเกี่ยวเนื่องกับเส้นทางการเงินในลักษณะรับจ้างเปิดบัญชีม้าให้กับขบวนการดังกล่าว ตรวจสอบพบว่าเงินของเด็กนักเรียนคนดังกล่าวโอนไปยังบัญชีของผู้ต้องหารายนี้ก่อนถูกโอนต่อไปยังผู้ต้องหาคนอื่นๆในขบวนการ อีก 3 ราย

จากนั้นช่วงเวลาบ่าย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์

คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. สอบสวน น.ส.นภาพร เพิ่มเติมอีก ใช้เวลากว่า 2 ชม. แล้ว พล.ต.ต.วิวัฒน์

กล่าวมาว่า หลังจากเกิดเหตุนักเรียนชายผูกคอฆ่าตัวตาย สาเหตุมาจากถูกหลอกให้ลงทุนซื้อสินค้าทางออนไลน์และครอบครัวผู้ตายได้มาวอนความเป็นธรรมให้ บช.สอท.เข้าคลี่คลายคดี จนถึงชุดสอบสวนสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดนนทบุรีออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการที่เป็นบัญชีม้า 8 รายในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ

รอง ผบช.สอท.กล่าวอีกว่า

ล่าสุดเวลาเช้าที่ผ่านมาตำรวจบุกเข้าจับกุมผู้ร่วมขบวนการรับจ้างเปิดบัญชีม้าให้กับเจ้าของเพจได้ 3 ราย ประกอบด้วยน.ส.นภาพร

หอมจันทร์ อายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 12/2566 ลงวันที่ 10 ม.ค.2566 จับได้ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา, นายสมบูรณ์ พงษ์เทเวช อายุ 55 ปี

ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 17/2566 ลงวันที่ 10 เดือนมกราคม2566 จับได้ที่ จ.นครสวรรค์ และ น.ส.พบพร วงศ์แข อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 14/2566 ลงวันที่ 10 เดือนมกราคม2566 จับได้ที่ จังหวัดปราจีนบุรี

3 บัญชีม้า รับจ้างเปิดบัญชี

3 บัญชีม้า ให้การรับสารภาพว่าโดนหลอกมาอีกที

จากการสอบสวน นางสาวนภาพรหนึ่งในผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้เปิดบัญชีม้าที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว โดยได้รับการชักชวนให้เปิดบัญชีในราคา 100 บาท จำนวน 2 บัญชี ตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนเมื่อปี 2559 คดีความผิด พ.ร.บ.การพนัน เมื่อปี 2561-2563 อีกทั้งเมื่อตรวจสอบบัญชีที่ตำรวจตรวจยึดได้พบว่ามีการโอนเข้าออกไปยังเว็บพนันออนไลน์ และผู้ต้องหาก็ยอมรับว่าเล่นพนันออนไลน์ทุกวัน นอกจากนั้น ผู้ต้องหาบอกด้วยว่านายจ้างยังออกอุบายหลอกล่อว่าจะให้ส่วนแบ่งกับบัญชีม้าด้วย ส่วนจะได้จริงหรือไม่อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง

เปิดปฏิบัติการ ตำรวจไซเบอร์

พล.ต.ต.วิวัฒน์กล่าวอีกว่า

ดูจากแผนประทุษกรรมของคนร้าย เจ้าหน้าที่สามารถแยกระดับของบัญชีม้าออกเป็น 8 ระดับ ในจำนวนนี้มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ร่วมด้วย สอท.ได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงินตรวจสอบเส้นทางการ

โอนเงิน ถึงแม้คนร้ายใช้วิธียักย้ายถ่ายเทภายในช่วงเวลารวดเร็วจากบัญชีที่หนึ่งไปยังบัญชีที่ห้าไม่ถึง 39 วินาทีก่อนจะโอนไปยังบัญชีของพ่อค้าเงินสกุลดิจิทัล ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบโครงข่ายขบวนการดังกล่าวแล้ว ถึงแม้ไอพีแอดเดรสของคนร้ายการตั้งถิ่นฐานอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน แต่เราได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการทาง Instagram Facebook และ LINE สำหรับเพื่อการดำเนินการตรวจสอบ ถึงแม้ว่าคนร้ายจะอยู่ประเทศเพื่อนบ้านก็สามารถออกหมายแดงเพื่อติดตามจับตัวได้ อย่างไรก็แล้วแต่ คดีนี้เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินได้ทันท่วงทีได้ 5 หมื่นบาท

“คดีดังกล่าวตำรวจดำเนินการจับกุมอย่างเต็มความสามารถก่อนขยายผลกวาดล้างทั้งขบวนการไปถึงตัวการใหญ่ไม่ใช่จับแค่บัญชีม้า อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าในส่วนของตัวการใหญ่ที่เป็นเจ้าของ บัญชี Instagram มีความเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ มีการปกปิดตัวตนโปรไฟล์เป็นอย่างดี แต่เจ้าหน้าที่ได้พิสูจน์ทราบตัวบุคคลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าไม่เกินสองวันจะสามารถออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวได้ภายในสัปดาห์นี้แน่นอน” รอง ผบช.สอท.กล่าว