Category ข่าวกีฬา

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เชิญ 4 ไปชมเกม

"โรนัลโด้" เชิญ 4 แข้ง "แมนยู" ชมเกมที่ซาอุฯ

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เชิญ 4 นักฟุตบอล อดีตเพื่อนเก่าที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มาชมเกมที่ตัวเอง ลงเล่นที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย

โรนัลโด้แยกทางกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงที่ ไปเข้าแคมป์ ฝึกหัด กับทีมชาติ โปรตุเกส เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับ ลงเล่น ฟุตบอลโลก 2022
ทำให้ไม่ได้ มีโอกาสร่ำลา เพื่อนร่วมทีม “ปีศาจแดง” เลยแม้แต่คนเดียว

โดย รายงานจาก สปอร์ตไบเบิล บอกว่า หากแม้ โรนัลโด้จะ ออกจากกลุ่ม วอทส์แอพ ของนักฟุตบอล “ปีศาจแดง” ไปแล้ว
แต่เขา ยังคงติดต่อ กับเพื่อนสนิท บางคน พร้อมทั้ง มีการเชิญ 4 นักเตะอย่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์, บรูโน่ แฟร์นานเดส, กาเซมีโร่ และ ราฟาแอล วาราน

ไปชมเกม ที่ตัวเอง ลงเล่นให้กับ อัล นาสเซอร์ ในลีก ซาอุดิอาระเบีย หรือจะไปไปเยี่ยม คฤหาสน์หลังใหม่ ที่กำลังก่อสร้างที่บ้านเกิด ในกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ช่วงวันหยุดก็ได้

ดังนี้ รายงานเพิ่มเติมเผยว่า นักฟุตบอล ดาวรุ่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด บางคนยังให้ ความเคารพโรนัลโด้ อยู่ และก็รู้สึกเสียใจ ที่ทุกอย่าง จบลงแบบนี้
เพราะเหตุว่าพวกเขา ยังไม่ได้กล่าว คำอำลา ที่เหมาะสม กับดาวเตะรุ่นพี่เลย

คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ที่ปรึกษา อัล นาสเซอร์ ชี้ โรนัลโด้ จะกลับไปยุโรป ก่อนแขวนสตั๊ด

รูดี้ การ์เซีย ที่ปรึกษา อัล นาสเซอร์ เปิดเผยว่า คริสเตีย โรนัลโด้พร้อม จะกลับไปเล่น ที่ยุโรปในอนาคต ก่อนแขวนสตั๊ด

นายใหญ่ ยอดทีมจาก ลีกซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า กัปตันทีมชาติ โปรตุเกส นับว่าเข้ามาช่วยทีม ในการทำลาย เกมรุกฝั่งตรงข้าม พร้อมเห็นว่าแข้งวัย 37 ปี

เป็นหนึ่ง ในผู้เล่นที่ดี ที่สุดในโลก และจะไม่จบ การเล่นในตะวันออกกลาง อย่างแน่นอน

“คริสเตียโน่ โรนัลโด้เป็น กำลังเสริม ที่ดี ด้วยเหตุว่าเขานั้น ช่วยในการ ทะลวงแนวรับได้”

“เขาคือหนึ่ง ในนักฟุตบอล ที่เก่ง ที่สุดในโลก เขาจะไม่หยุด เส้นทางอาชีพกับ อัล นาสเซอร์ เขาจะกลับไป ยุโรป”

โรนัลโด้
เจอมากับตัว “กองหลังลีกซาอุฯ” เปิดใจหลัง เผชิญหน้า “โรนัลโด” ชี้สิ่งที่เปลี่ยนไป

มาร์กแซล ทิสเซร็องด์ กองหลัง ชาวดีอาร์คองโก ของ อัล อิตติฟาค สโมสรในลีก ซาอุดีอาระเบีย ชื่นชม คริสเตียโน โรนัลโด กองหน้าของ อัล นาสเซอร์

ว่าดูแล ตัวเองได้ดี อยู่ในสภาพ ที่ฟิตและ สมบูรณ์ แม้ความจี๊ดจ๊าด จะลดลงไปตามอายุ หลังได้ดวลแข้งกันในเกมที่ อัล อิตติฟาต แพ้ อัล นาสเซอร์ 0-1

และเชื่อว่า โรนัลโด้จะเข้ามา ช่วยยกระดับ ลีกซาอุดีอาระเบีย ได้อย่างแน่นอน

ทิสเซร็องด์ กล่าวว่า “เท่าที่ผมเห็น เขายังฟิต และดูโอเคอยู่นะ สังเกตุได้ว่าเขาดูแลตัวเองดีมาก แต่แน่นอน ว่าจะให้เขาวิ่งเหมือนอายุ 20 ก็คงไม่ใช่ พวกเรา จะไม่ขอให้เขาเลี้ยง บอลผ่าน 5 คน เหมือนที่เขา ทำได้เมื่อ 2-3 ปีก่อน หรือทำทุก อย่างด้วยตัวเอง ตอนนี้เขา ต้องการเพื่อนร่วมทีม มากขึ้น เขาเล่นด้วย สมองมากขึ้น การเคลื่อนที่ ของและจังหวะต่าง ๆ เป็นไปตามกาลเวลา ผมคิดว่า เขาจะปรับตัว ได้อย่างรวดเร็วกับลีกนี้”

“การมาถึงของ โรนัลโดช่วยกระตุ้นลีกนี้ เพราะใครๆ ก็พากันพูดถึงเรื่องที่เขาย้ายมา และมันยอดเยี่ยมมากที่ทีมของเราได้เผชิญหน้าในนัดแรกของเขากับลีกนี้อย่างเป็นทางการ”

วิ่งวิถีใหม่ ใจกลางเมือง 2023

5 สตาร์กีฬาร่วมชาเลนจ์ วิ่งวิถีใหม่ ใจกลางเมือง 2023

กกท.-กองทุนพัฒนาการ กีฬาแห่งชาติ ดึง 5 สตาร์นักกีฬาร่วมชาเลนจ์สุดพิเศษ ในกิจกรรมเดิน-วิ่ง รวมพลคนกีฬา วิ่งวิถีใหม่ ใจกลางเมือง “Sports Day Run Thailand Series 2023” นำทัพโดย “บัวขาว-ลีซอ- ปิยะนุช-ตะวัน แล้วก็เอิร์น นางฟ้านักวิ่ง”

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และก็กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จัดงานแถลงข่าวเปิดโครงการเดิน-วิ่ง รวมพลคนกีฬา วิ่งวิถีใหม่ ใจกลางเมือง “Sports Day Run Thailand Series 2023” ดึง 5 นักกีฬาและก็อินฟลูเอนเซอร์ขวัญใจชาวไทย

ให้แฟนๆร่วมชาเลนจ์ 2 กิจกรรมสุดพิเศษ ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ บริเวณด้านหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมายุ การกีฬาแห่งประเทศไทย

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การท่องเที่ยวรวมทั้งกีฬา กล่าวว่า กิจกรรมเดิน-วิ่ง รวมพลคนกีฬา วิ่งวิถีใหม่ ใจกลางเมือง “Sports Day Run Thailand Series 2023” เป็นการเปิดให้แฟนๆและก็ประชาชนทั่วๆไปได้ออกกำลังกายร่วมกับ เหล่าบรรดานักกีฬาที่มีชื่อ

แล้วก็เป็นขวัญใจของคนไทย โดยมีทั้งรูปแบบ Virtual Walk-Run เดิน-วิ่ง สะสมระยะทาง ที่ไหนก็ได้ รวมทั้งกิจกรรมเดิน-วิ่ง ระยะทาง 5 กม. ที่สวนสาธารณะต่าง ๆ

ซึ่งการมีนักกีฬาที่มีชื่อเสียงด้านการออกกำลังกายมาร่วมกิจกรรมด้วย จะช่วยเพิ่มกระแสความตื่นตัว พร้อมช่วยจูงใจแล้วก็เป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชน หันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้วก็ต่อเนื่องได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นไปตามพันธกิจของกระทรวง ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ ในการส่งเสริมและส่งเสริมกิจกรรมทางการกีฬาของชาติ ตามยุทธศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทย

​ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย

​ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า

การกีฬาแห่งประเทศไทย เล็งเห็นความสำคัญของการเล่นกีฬาและก็ออกกำลังกายในชีวิตประจำวัน ก็เลยได้จัดกิจกรรมออกกำลังกายรูปแบบเดิน-วิ่ง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เข้าถึงได้ง่าย ทุกเพศทุกวัยสามารถเข้าร่วมได้ ในชื่อโครงการ “รวมพลคนกีฬา วิ่งวิถีใหม่ ใจกลางเมือง” พร้อมเชิญนักกีฬาขวัญใจชาวไทยรวมทั้งอินฟลูเอนเซอร์ชั้นนำระดับประเทศมาร่วมนำขบวน นำโดย บัวขาว บัญชาการเมฆ, ปิยะนุช แป้นน้อย, “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย, “ตะวัน” ปัณณวิชญ์ ทองน่วม และ “เอิร์น” จิราภรณ์ กมลรังสรรค์ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและก็สร้างกระแส ตื่นตัวให้คนไทยหันมาออกกำลังกายอย่างบ่อยและก็สร้างความสนใจในการเล่นกีฬาชนิดอื่นต่อ ๆ ไป

​ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กล่าวว่า กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มีพันธกิจสำคัญในการส่งเสริม สนับสนุน รวมทั้งสร้างโอกาสทางการกีฬาให้เกิดขึ้นอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการพัฒนารวมทั้งเสริมสร้างสมรรถนะทรัพยากรมนุษย์ ตลอดจนตอบสนองพันธกิจตามยุทธศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทย

ด้านการพัฒนาการมีส่วนร่วมในกิจกรรมรวมทั้งการบริการของการกีฬาแห่งประเทศไทย ก็เลยได้ร่วมเกื้อหนุนการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมการเล่นกีฬาในชีวิตประจำวันอย่างตลอด พร้อมสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนเข้าถึงพื้นที่เพื่อการออกกำลังกายรวมทั้งพื้นที่สาธารณะมากเพิ่มขึ้น โดยกิจกรรมนี้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมรับของที่ระลึกแล้วก็เหรียญรางวัลเมื่อเข้าร่วมกิจกรรม ด้วยเช่นเดียวกัน

Sports Day Run Thailand Series 2023

สำหรับ กิจกรรมเดิน-วิ่ง รวมพลคนกีฬา วิ่งวิถีใหม่ ใจกลางเมือง “Sports Day Run Thailand Series 2023”

เปิดให้ประชาชนได้ร่วมชาเลนจ์ไปกับกองทัพนักกีฬาและก็อินฟลูเอนเซอร์ชั้นนำระดับประเทศจาก 5 ชนิดกีฬา นำโดย บัวขาว บัญชาเมฆ (BOXING STAR), ปิยะนุช แป้นน้อย (VOLLEYBALL STAR ), “เอิร์น” จิราภรณ์ กมลรังสรรค์ ผู้ครอบครองฉายานางฟ้านักวิ่ง (RUNNING STAR), “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย (FOOTBALL STAR) แล้วก็ “ตะวัน” ปัณณวิชญ์ ทองน่วม (BADMINTON STAR)

​ดังนี้ การจัดกิจกรรมมี 2 รูปแบบ ประกอบด้วย 1.กิจกรรม Virtual Walk-Run เดิน-วิ่ง สะสมระยะทางที่ไหนก็ได้ เวลาใดก็ได้ จำนวน 5 ชาเลนจ์ (30 กิโล ต่อ 1 ชาเลนจ์) แล้วก็ 2.กิจกรรมเดิน-วิ่ง ระยะทาง 5 กม. จำนวน 5 ครั้ง คือ VOLLEYBALL DAY วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ณ การกีฬาแห่งประเทศไทย, BOXING DAY วันที่ 4 มีนาคม 2566 ณ สวนห้ากิติ, RUNNING DAY วันที่ 8 เมษายน 2566 ณ สวนหลวงร.9, FOOTBALL DAY วันที่ 6 พฤษภาคม 2566 ณ สวนเบญจกิติ และก็ BADMINTON DAY วันที่ 3 มิถุนายน 2566 ณ สวนหลวง ร.9

เอฟเวอร์ตันประกาศขายทีม

บิเอลซ่า-แฟรงค์ ปัดคุมเอฟเวอร์ตัน

มาร์เซโล่ บิเอลซ่า และก็ โธมัส แฟรงค์ ไม่ยอมรับไม่สนใจที่จะเข้ามารับงานคุมทีม เอฟเวอร์ตัน แทนที่ของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่พึ่งจะถูกปลดออกไป

ทั้งยัง บิเอลซ่า รวมทั้ง แฟรงค์ อยู่ในลิสต์รายนามที่มีโอกาส เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของทีม “ท๊อฟฟี้สีน้ำเงิน” โดยยิ่งไปกว่านั้นกับในรายของ บิเอลซ่า

ที่มีรายงานว่า ฟาร์ฮัด โมชิรี่ เจ้าของทีมเอฟเวอร์ตัน วางให้ที่ปรึกษาชาวอาร์เจนไตน์เป็นตัวเลือกอันดับ 1 ที่อยากได้ตัวเข้ามาคุมทีม หลังประทับใจกับผลงานในการพา ลีดส์ เลื่อนชั้นกลับคืนสู่พรีเมียร์ลีก และก็จบอันดับ 9 ในซีซั่น 2021

แต่ล่าสุด เดอะ ไทม์ส แถลงการณ์ว่า บิเอลซ่า ได้ไม่ยอมรับข้อเสนอของเอฟเวอร์ตันแล้ว เนื่องจากว่ากังวลค่อนข้างมากกับการเข้ามา รับตำแหน่งที่ยากลำบากนี้ โดยยิ่งไปกว่านั้นกับการสร้างทีมชุดปัจจุบันให้แข็งแกร่งขึ้น อีกจุดคือเอฟเวอร์ตัน กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เนื่องจากบิเอลซ่า ต้องการเปลี่ยนสตาฟฟ์ยกชุด

ส่วนอีกรายอย่าง โธมัส แฟรงค์ ก็มีรายงานจาก ไวทัลเอฟเวอร์ตัน ว่า กุนซือคนตอนนี้ของ เบรนท์ฟอร์ด ได้บอกปัดข้อเสนอของ เอฟเวอร์ตัน แล้วเหมือนกัน ด้วยเหตุว่ากำลังสนุก กับการทำงานที่ เบรนท์ฟอร์ด ที่ตอนนี้ทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมที่สุดรั้งอยู่ในอันดับ 8 ของพรีเมียร์ลีก

แลมพาร์ด

ไม่รอช้า เต็ง 1 ผู้จัดการทีมฟุตบอลใหม่ “เอฟเวอร์ตัน” คุยเจ้าของทีมแล้ว-รอถก 1 ข้อก่อนแทน “แลมพาร์ด”

“ดีกรีไม่ธรรมดา” เต็ง 1 ผู้จัดการทีมฟุตบอลใหม่เอฟเวอร์ตัน คุยกับผู้ครอบครองทีมแล้ว เหลือสนทนา 1 ข้อตกลงสำคัญ ก่อนรับงานพาทีมหนีตายพรีเมียร์ลีก

วันที่ 24 มกราคม 2566 เดลี่เมล สื่อดังเมืองผู้ดีรายงานว่าเอฟเวอร์ตัน ได้เลือก มาร์เซโล บิเอลซา ที่ปรึกษาจอมเก๋า ชาวอาร์เจนตินา เป็นเป้าหมายอันดับ 1 ที่จะมารับงานต่อจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่เพิ่งโดนปลดออกจากตำแหน่ง เพื่อพาทีมลุ้นหนีตกชั้น จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากตกไปอยู่อันดับ 19 มีเพียง 15 คะแนน จาก 20 นัด ห่างจากโซนปลอดภัย 2 แต้ม

มาร์เซโล บิเอลซา วัย 67 ปี กำลังตกงาน หลังแยกทางกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ซึ่งที่มาของข่าวบอกว่าได้เข้ามาคุยกับ ฟาร์ฮัด โมชิรี ผู้ครอบครองสโมสรเอฟเวอร์ตันแล้ว โดยกุนซือจอมเก๋าชาวอาร์เจนตินาต้องการรู้ถึงแผนงานเสริมทัพเพื่อลุ้นหนีตกชั้น ก่อนที่ตลาดนักเตะฤดูหนาวจะปิดตัวลงในวันที่ 31 มกราคมนี้ ก่อนตัดสินใจรับงาน

สำหรับ มาร์เซโล บิเอลซา ถือเป็นผู้จัดการทีมที่ได้รับการยอมรับเรื่องความสามารถที่เน้นการเล่นเกมรุกและความดุดัน เคยพาทีมชาติอาร์เจนตินาไปลุยฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 2 สมัย ในปี 1998 และปี 2002 รวมทั้งคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2004 จากนั้นก็นำ แอธเลติก บิลเบา เข้ารอบชิงชนะเลิศ โกปา เดล เรย์ แล้วก็ ยูโรปาลีก ในฤดูกาล 2011-2012 ก่อนพา ลีดส์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์แชมเปียนชิพ ฤดูกาล 2019-2020 เลื่อนชั้นกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 16 ปีได้สำเร็จ

ทั้งนี้ มาร์เซโล บิเอลซา เป็น 1 ในตัวเต็งที่จะมารับงานผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตันคนใหม่แทน แฟรงค์ แลมพาร์ด ร่วมกับ ฌอน ไดช์, เวย์น รูนีย์, นูโน เอสปิริโต ซานโต และ ดันแคน เฟอร์กูสัน.

บิเอลซา

500 ล้านปอนด์! เอฟเวอร์ตันประกาศขายทีมหลังปลดแลมพาร์ด

ผู้ครอบครองทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงินเตรียมนำทีมเข้าสู่ตลาด เพื่อหารายได้มากกว่า 500 ล้านปอนด์ มาเผื่อแผ่ส่วนที่หายไปจากการสร้างสนามใหม่ และก็เลือกสรรผู้จัดการทีม

ฟาร์ฮัด โมชิรี เจ้าของทีมเอฟเวอร์ตัน ออกมาประกาศขายทีม หลังจากที่พึ่งจะปลดแฟรงค์ แลมพาร์ด พ้นจากตำแหน่งได้เพียง 1 วัน ตามรายงานจาก The Guardian

ทีมท็อฟฟี้สีน้ำเงิน กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มย่ำแย่ หลังจากที่มีเพียงแค่ 15 แต้มจาก 20 นัด โดยชนะไป 3 นัด เสมอ 6 และแพ้ถึง 11 นัด นำมาซึ่งการทำให้ทีมต้องปลดแลมพาร์ดออกจากตำแหน่งกุนซือ

จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้พวกเขาต้องมองหาเฮดโค้ชคนใหม่เข้ามาคุมทีม โดยมาร์เซโล บิเอลซา รวมทั้งชอน ไดค์ คือสองตัวเก็งที่มีชื่อปรากฏตามหน้าสื่อเวลานี้

เอฟเวอร์ตันประกาศขายทีม

เอฟเวอร์ตัน เปิดการพูดจาดึง บิเอลซา คุมแทน แลมพาร์ด

สำนักข่าวเดลี เมล์ กล่าวว่าเอฟเวอร์ตัน กำลังทำการสนทนากับ มาร์เซโล บิเอลซา ให้เข้ามานั่งแท่นผู้จัดการทีมคนใหม่ของพวกเขา
เอฟเวอร์ตัน เพิ่งจะสั่งปลด แฟรงก์ แลมพาร์ด พ้นจากตำแหน่งกุนซือ ไปหมาด ๆ หลังจากทีมรั้งอันดับ 19 ของตาราง แล้วก็มีความเสี่ยงที่จะตกชั้น

รวมทั้งล่าสุดมีการเปิดเผยว่า พวกเขากำลัง ทำการพูดจากับ บิเอลซา แล้ว แต่ทางกุนซือชาวอาร์เจนไตน์ต้องการจะรู้เรื่องแผนการเสริมทัพของเอฟเวอร์ตัน ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะรับงานดังกล่าวกับทีมทอฟฟี้สีน้ำเงินหรือไม่

สำหรับบิเอลซา ก่อนหน้านี้สร้างผลงานสำคัญ คือ การพาลีดส์ ยูไนเต็ด เลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ แต่สุดท้ายก็แยกทางกันไปแล้ว

บอลมันส์ จนลืมหายใจ อาร์เซนอล แมนฯยูฯ

บอลมันส์ จนลืมหายใจ คนแพ้หมดสิทธิ์แก้ตัว

บอกได้ว่าเกมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ 5 ดาว น้ำจิ้มข้นคลั่กระหว่าง อาร์เซนอล และก็ แมนฯยูฯ เกือบจะจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้งจนกระทั่งเกิดประตูชัยสนามแตกในนาที 90

ก่อนหน้านี้การคัมแบ็คทวงประตูคืนฝั่งละหนของทั้ง 2 ทีมอย่างเร็วทันใจในเวลาใกล้เคียงกัน (6-7 นาที) ถ้านับถึงเพียงแค่นี้ผลเสมอให้ได้ไม่น่าเกลียด

ด้วยความเป็นเจ้าบ้าน/ทีมเยือน ในช่วงเวลา 10-20 นาทีสุดท้ายอาร์เซนอล โหมหนักขึ้น ในขณะที่ ยูไนเต็ด ดูอ่อนเปลี้ยเพลียแรงกระทั่งแนวรับแกว่งอย่างมองเห็นได้ชัดเจน

การถอด แอนโทนี่ รวมทั้งอัด เฟร็ด ยัดกลางรับอีกตัวตั้งแต่นาที 71 คือการบอกเป็นนัย ๆ ของ เอริค เทน ฮาก ว่าขอ 1 แต้มเป็นอย่างน้อย

ภารกิจที่ว่านี้เกือบจะถึงฝั่งแต่แนวรับของ ยูไนเต็ด ถูกขยี้ถี่จนเหมือนบอลรอโดนแถมประตูของ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ดันมาโผล่แบบไม่เหลือเวลาให้ “ปีศาจแดง” ตามแก้ตัวอะไรก็ตามอีกแล้ว

ความลื่นไหลของเกม, การต่อสู้ที่ตื่นเต้นเร้าใจ สะกดให้เราลุกไปไหนไม่ได้ทำให้เวลาผ่านไปเร็วโคตร ๆ

“ปืนใหญ่” ที่จัดเกมบุกตาม แบบฉบับเจ้าบ้านอยู่ร่วม ๆ 10 กว่านาทีแต่โชคร้ายตรงที่ว่าความผิดพลาด ครั้งแรกกับการเสียบอลในแดนตนเองถูกลงโทษทันที

มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ตอนนี้ฟอร์มน่ากลัวสุด ๆ ใช้โอกาสแรกของตนเองรวมทั้งของฝี่งทีมเยือนประเดิม ลูกแรกจากความเยือกเย็นสัมผัสดาก โธมัส ปาเตย์ (ที่วันนี้ผมว่าเล่นน้อยกว่ามาตรฐาน) ก่อนเลือกยิงมุมยากไร้ แรมเดลส์ กว่าจะรู้ตัวก็ช้าไปแล้ว

การขาด คาเซมิโร่ ของ ยูไนเต็ด ได้ผลทันตาเห็น แดนกลางยวบ การสกรีนเกมรุกที่ตัวเสียบแทนอย่าง แม็คโทมิเนย์ ผลลัพท์ออกมาคนละตีน

กระทบไปถึง เอริคเซ่น ที่ปกติแกเป็นพวกประดิษฐ์เกมต้องทำงาน “เสริม” ช่วยเกมรับจนกระทั่งแทบไม่เหลือแรง

ผมนี่งวยงง เลยคือ แม็คโทฯ แกยืนมิดฟิลด์ฝั่งซ้ายซึ่งตำแหน่งนี้แกต้องคอยซ้อน ลุค ชอว์ เพื่อรับมือกับ ซาก้า ที่จ้องมองเลี้ยงตัดเข้าในตลอดทั้งเกม

อาร์เซนอล

แต่จังหวะที่เสียประตูปล่อยให้คนอายุ 30 ปีอย่าง เอริคเซ่น มาไล่กวดซะงั้น (แต่ตัวเองไปยืนในเขตโทษ)

ไม่ใช่แค่ลูกนี้ครับตอนช่วงนาที 70 ที ซาก้า กดสูตรเดิมก็ยังเป็น เอริคเซ่น คนเดิมพยายามช่วยบล็อกแต่ก็ช้าไป 1 ก้าว (อีกแล้ว) โชคดีบอลแฉลบโคนเสา

เข้าบอลดุกว่า หนุ่มกว่าแต่ไหงไปยืนมองดู รักษาพื้นที่ในเขตโทษซึ่งมีแนวรับคนอื่นๆประจำการอยู่แล้ว

ความอันตรายรวมทั้งจมูกไวในเขตโทษของ เอ็นเคเทียห์ นับว่าเป็นอาวุธลับของ “ปืนใหญ่” ในฤดูกาลนี้จริง ๆ ครับ

เพราะมีการเปิดสถิติตลอด 13 เกมที่ลงตัวจริงใน เอมิเรสต์ สเตเดียม “พี่เอ็นข้อ” ซัดไปถึง 12 ประตู จำนวนโคตรโหด!!

การเข้าหาบอลตัดหน้า “ไอ้แมงมุม”, การอยู่ถูกที่ถูกเวลา ในระยะเผาขนรอบแรก (ติดเซฟ เด เกอา) และซัดประตูชัยนาที 90 ล้วนแล้วแต่เป็นสัญชาตญาณดาวยิงล้วน ๆ

ถ้าเป็นคนรุ่นเก่ายุค 90 จะรำลึกถึง อลัน สมิธ กองหน้าร่างสูงใหญ่ที่ไม่ว่าบอลโด่งบอลเลียดถึงเวลาเขาจะมาตามนัดเอง

ครับสำหรับผู้แพ้ “ปีศาจแดง” การโดนยิงช่วงเวลาอื่น “เจ็บ” ไม่เท่าโดนช่วงนาทีสุดท้าย อารมณ์ประมาณไม่เหลือเวลาให้ระบายแค้น เกมจบแบบมีเงื่อนในใจ

ยิ่งมองถึงฟอร์มรวมทั้งการสู้กับ “จ่าฝูง” ได้ไม่เป็นรอง การตาม อาร์เซนอล 8 แต้มกับตอนนี้ 11 แต้มคงต้องใช้วลา heal กันอีกพักนึง

แต่ในมุมมองผม ยูไนเต็ด วันนี้ต่างจากซีซั่นก่อนรวมทั้งต้นซีซั่นจริง ๆ การเล่นรวมทั้งเสียประตูแบบเด็กอนุบาล ที่แฟนบอลทีมอื่นเอามาล้อรวมฮิตในยูทูปมันไม่มีอีกแล้ว

ตามหลักแล้วก้าวแรกของทีม ที่จะขึ้นมาลุ้นแชมป์บนหัวตารางอย่างเต็มกำลังต้องเริ่มจากสัมผัสถึงแรงกดดันแล้วก็ต่อกรต่อสู้เกมอันเข้มข้นของทีมระดับ top ให้ได้ก่อน

ทั้ง 2 นัดไม่ว่าเกมที่เจออาร์เซนอล หรือ แมนฯซิตี้ เด็ก ๆ ของ เอริค เทน ฮาก พิสูจน์ให้มองเห็นแล้วว่า space ความห่างมันอยู่เพียงแค่ปลายนิ้วจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ก่อน ETH จะมาทรงบอลคนละตีนกันเลยนะครับ

ผมเชื่อเหลือเกินว่าตลาดซัมเมอร์หน้าจะผลักให้ “ปีศาจแดง” ก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์สู้กับ ซิตี้ แล้วก็อาร์เซนอล เต็มตัวแน่นอน

สำหรับ “ปืนใหญ่” การเก็บความมีชัยครั้งแล้วครั้งเล่า 16 จาก 19 เกมซึ่งแตะครึ่งซีซั่นเป็นตัวเลขที่ไม่มีวัน พูดเท็จใคร

การคว้า เลอันโดร ทรอสซาร์ ทั้งๆที่ “ปืนใหญ่” ยิงประตูมากที่สุดในลีกรองจาก ซิตี้ เป็นการประกาศตัวต้องแชมป์เท่านั้นของ มิเกล อาร์เตต้า บิ๊กบอสหน้าหยก

5 แต้มเหนืออันดับ 2 พร้อม 1 เกมในมือถือว่าไม่ได้เยอะแยะอะไรเลยเมื่อเรากำลังพูดถึง แมนฯซิตี้ ของ เป๊ป กวาดิโอล่า

ตัวแปรสำคัญคือทั้ง 2 ทีมยังไม่ได้เจอกันเลยในฤดูกาลนี้ 16 ก.พ. ที่ เอมิเรสต์ รวมทั้ง 27 เดือนเมษายน ที่ เอติฮัด แน่นอนไม่ใช่ตัวตัดสินแชมป์ที่โดยความเป็นจริง

ความเป็นประจำในการดูดแต้มจากบรรดาทีมอื่น ๆ ต่างหากคือปัจจัยคว้าแชมป์ซึ่ง so far ตอนนี้ อาร์เซนอล ถือว่ายังทำได้เฉียบกว่า ซิตี้ ที่ยังมีเส้นกราฟที่สวิงไปมานิดหน่อย

หนทาง ยังอีกยาวไกลอีกครึ่งซีซั่นหรือ 4 เดือนเต็มก็จริงแต่ต้องพูดว่าตอนนี้ “ปืนใหญ่” มาดีแล้วก็ดูดีจริง ๆ ครับ…

แมนฯยูฯ
เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ เป็นนักฟุตบอล อาร์เซนอล คนที่ 2

ที่ยิงประตูนาที 90 ใส่ แมนฯยูไนเต็ด (ในพรีเมียร์ลีก) นับตั้งแต่ เธียร์รี่ อองรี เคยทำเอาไว้ภายในเดือนมกราคม 2007

เอ็นเคเทียห์ เป็นแข้ง “ปืนใหญ่” คนแรกที่ยิง 2 ประตูใส่ แมนฯยูฯ ในพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่ อเล็กซิส ซานเชส เคยทำไว้เมื่อเดือนตุลุกลามคม 2015

นอกเหนือจากนี้ “พี่เอ็ดดี้” ทำสถิติสุดร้อนแรงยิง 18 ประตูจากการออก สตาร์ตเป็นตัวจริง 26 เกมในทุกรายการรวมถึง 12 ประตูจากการลงตัวจริง 13 เกมที่ เอมิเรสต์ สเตเดียม อีกด้วย

อาร์เซนอล สัมผัสบอลในกรอบเขตโทษของ แมนฯยูฯ เกมนี้มากถึง 63 ครั้ง นับเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในเกมเดียวของซีซั่นนี้

“ปืนใหญ่” ทำสถิติไร้พ่ายในพรีเมียร์ลีกเป็นนัดที่ 13 (ชนะ 11 เสมอ 2) เป็นตัวเลขที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018 (14 เกม)

บูกาโย่ ซาก้า เป็นนักฟุตบอล “ปืนใหญ่” คนที่ 3 ที่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกในการเจอกับ “ปีศาจแดง” 3 เกมติดต่อกันโดย 2 คนก่อนหน้านี้ที่ทำได้คือ เฟร็ดดี้ ยุงเบิร์ก (1998-2000) แล้วก็ เธียร์รี่ อองรี (2000-2001)

เกมนี้ถือเป็นหนที่ 3 เท่านั้นที่อาร์เซนอล เปิดบ้านจัดการกับ แมนฯยูฯ ในขณะที่รั้งตำแหน่ง “จ่าฝูง” โดยทั้งยัง 3 เกมพวกเขาไม่แพ้เลย (ชนะเกมนี้ 3-2,เสมอ 1-1 ปี 2004 และ 2-2 ปี 2007)

มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิง 9 ประตูในทุกรายการนับตั้งแต่จบบอลโลก นับว่าเป็นนักฟุตบอลที่ยิงมากกว่าผู้เล่นคนอื่น ๆ ใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปเลยทีเดียว

ลิซานโดร มาติเนซ เป็นนักฟุตบอล อาร์เจนติน่า คนที่ 7 ที่ทำประตูให้ แมนฯยูฯ นับว่ามากกว่าทุกๆสโมสรไปแล้ว (คาร์ลอส เตเวซ, ฮวน เซบาสเตียน เวรอน, อังเคล ดิ มาเรีย, มาร์กอส โรโฮ, กาเบรียล ไฮนเซ่ และ อเลฮานโดร การ์นาโช่)

แมนฯยูฯ ไม่พบกับชัยเลยเมื่อต้องบุกมาเยือนอาร์เซนอล 5 เกมทุกรายการโดยแพ้ถึง 4 แล้วก็เสียอย่างน้อย 2 ประตูในแต่ละความแพ้ (เสมออีก 1) เป็นสถิติไร้ชัยที่ เอมิเรสต์ ที่ยาวนานที่สุดของพวกเขานับตั้งแต่ตุลาคม 2000 – มีนาคม 2004 (5 เกม)

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 25 ประตูจากการอ้าเท้ายิงเพียงแต่ 74 หนเท่านั้นโดยดาวซัลโวสูงสุดของ แมนฯซิตี้ อย่าง กุน อเกวโร่ กว่าจะยิงได้ 25 ประตูต้องใช้โอกาส 150 ครั้งหรือมากกว่า 2 เท่า

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กดแฮทริคที่ 4 จากการลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเพียงแค่ 19 นัดเท่านั้น เป็นการทำลายสถิติของ รุด ฟาน นิสเตลรอย ที่ทำ 4 แฮทริคจากการลงเล่น 65 นัดอย่างง่ายดาย

19 – เออร์ลิ่ง ฮาลันด์
65 – รุด ฟาน นิสเตลรอย
81 – หลุยส์ ซัวเรซ
86 – อลัน เชียร์เรอร์
89 – ร็อบบี้ ฟาวเลอร์

มีเพียงแค่ อลัน เชียร์เรอร์ คนเดียวเท่านั้น (5 หนในซีซั่น 1995-96) ที่ทำแฮทริคในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลเดียวมากกว่า เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ (4 หน 2023-24)

ไม่มีนักเตะคนไหนยิงประตูในบ้านในฤดูกาลเดียวให้ แมนฯซิตี้ มากกว่า เออร์ลิง ฮาลันด์ อีกแล้ว (16 ประตูจาก 11 เกมที่ เอติฮัด) ซึ่งเป็นตัวเลขที่เท่า กุน อเกวโร่ (2011-12)

เควิน เดอ บรอยน์ จัดไปแล้ว 16 แอสซิสต์รวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ซึ่งมากกว่านักเตะทุกคนใน 5 ลีกใหญ่ ๆ โดย 7 จาก 16 เป็นประตูของ ฮาลันด์

5 ข้อ แมนยู โดน พาเลซ

เว็กฮอร์สต์ ไหวแน่นะวิ, ผีเสียสถิติจนได้ – 5 ข้อ แมนยู โดน พาเลซ ทำแสบแชร์แต้ม

ในที่สุด แมนยู ก็ออกอาการ สะดุดเข้าให้ ซะแล้วเมื่อบุกไปโดน คริสตัล พาเลซ แบ่งแต้ม 1-1 ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่สนาม เซลเฮิร์สพาร์ค เมื่อวันพุธที่ 18 ม.ค. ซึ่งถือได้ว่าทำให้เกิดผลเสีย อย่างแรงต่อโอกาส ได้ลุ้นคว้าแชมป์ลีก

แบบนี้เพราะนอกเหนือจากที่จะพลาดการเก็บสามแต้มเต็มแล้ว กาเซมีโร่ กองกลางทีมชาติ บราซิล ยังหมดสิทธิ์ ลงเล่นเกมหน้ากับทีม ปืนใหญ่ ด้วยหลังสะสมใบเหลือง เพิ่มซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า นับเป็นข่าวร้ายของ ผีแดง และก็เป็นข่าวดีของทีมจ่าฝูง

คริสตัล พาเลซ

1.เจ้าถิ่น แมนยู หมุนทีมสี่ตำแหน่ง

ปาทริค วิเอร่า ที่ปรึกษาทีม คริสตัล พาเลซ จัดทัพต่อกร แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการเปลี่ยนโผ ตัวจริงสี่รายจากเกมลีก ที่บุกไปปราชัย เชลซี 1-0

ในจำนวนนี้ คริส ริชาร์ดส์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติ สหรัฐฯ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกม พรีเมียร์ลีก นัดแรกเสียบแทน โยอาคิม อันเดอร์สัน ที่บาดเจ็บ

นอกจากนั้นอีกสามรายได้แก่ วิลล์ ฮิวจ์ส กองกลางที่ได้ลงเล่น เป็นตัวจริงในลีกซีซั่นนี้เกมแรก , อ็อดชอนน์ เอดูอาร์ แล้วก็ ฌอง ฟิลลิปป์ มาเตต้า ที่แทรก เอเบเรชี่ เอเซ่ , จอร์แดน อายิว แล้วก็ เจฟฟรีย์ ชลุปป์ ลงไปนั่งเป็นตัวสำรอง

เวาท์ เว็กฮอร์สต์

2. เว็กฮอร์สต์ ออกสตาร์ต , แมนยู ปรับกองทัพสามราย

เอริค เทน ฮาก ที่ปรึกษาทีม แมนฯ ยูไนเต็ด สร้างความฮือฮาด้วยการส่ง เวาท์ เว็กฮอร์สต์ กองหน้าที่ยืมมาจาก เบซิคตัส ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงทันทีในเกมประเดิมสนามของเขาแทนที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่มีปัญหาบาดเจ็บ แล้วก็ไม่มีส่วนร่วมกับเกมนี้

รวมแล้ว ผีแดง เปลี่ยนโผจากเกมเปิดบ้านสยบ แมนฯ ซิตี้ 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาสามรายโดย ลิซานโดร มาร์ติเนซ ได้ลงเล่นแทน ไทเรลล์ มาลาเซีย เป็นการฉลองวัน เกิดอายุครบ 25 ปีพอดีของกองหลัง แชมป์โลก แล้วก็ทำให้ ลุค ชอว์ กลับไปแบกรับภาระ แบ็คซ้ายเหมือนเดิม

ยิ่งกว่านั้น อันโตนี่ ก็กลับสู่โผตัวจริงแทน เฟร็ด ขณะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ฟิตมากพอที่จะลงสนามได้

เว็กฮอร์สต์

3. เว็กฮอร์สต์ ไหวมั้ย?

อาจเป็นแค่เพียงเกมแรก ของสตาร์ชาวเมือง กังหันลมกับ ปีศาจแดง แต่เท่าที่ได้เห็นหน่วยก้านของ เว็กฮอร์สต์ คล้ายกับว่า เทน ฮาก อาจเลือกเซ็นสัญญากับศูนย์หน้าผิดคนก็เป็นได้

โอเคว่าที่ปรึกษาสกินเฮด มีเจตนารมณ์ต้องการหัวหอก ขนานแท้ที่จะคอยปักหลักอยู่ข้างหน้า รวมทั้งถ้าเกิดเล่นลูกกลาง อากาศได้ฉมังก็ยิ่งเจ๋งใหญ่จึงทำให้หวยไปลงที่ดาวยิงทีม เบิร์นลีย์ หากว่า ผีแดง จะโดนลือกับศูนย์หน้าเป็นร้อย ๆ ราย

อย่างไรเสีย จากที่มองเห็นใน 45 นาทีแรกที่ เซลเฮิร์สพาร์ค เว็กฮอร์สต์ ออกจะเทอะทะเกินไป รวมทั้งไร้สปีดซึ่งทำให้เขาไม่ทันการเล่นเกมรุกที่เร็วจัดของ แมนฯ ยูไนเต็ด สักเท่าไหร่

นอกเหนือจากโอกาสขึ้น กระแทกที่ไม่ตรงกรอบ สตาร์หน้าใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็แทบจะทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ดีที่ว่าก่อนจบครึ่งแรกไม่นาน คริสเตียน เอริคเซ่น ตวัดบอลจากกราบซ้ายให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ซัดตุงตาข่ายพา แมนฯ ยูไนเต็ด นำหน้า 1-0 จนได้

ถึงตอนนี้ กองกลางโปรตุกีส จึงยิงประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ทั้งยังนัดเหย้าแล้วก็นัดเยือน 20 ลูกเท่ากันแล้ว ซึ่งมีนักฟุตบอลแค่สี่รายที่มีผลงานดีเยี่ยมที่สุดทัดเทียมกันนับตั้งแต่ แฟร์นันด์ส ประเดิมสนามในเดือนกุมภาพันธ์2020 ซึ่งประกอบไปด้วย แฮร์รี่ เคน , โม ซาลาห์ แล้วก็ ซน ฮึง มิน

จากนั้นในครึ่งหลัง เว็กฮอร์สต์ ยังได้อยู่ในสนามต่อจนถึงนาทีที่ 70 ก่อนโดนเปลี่ยนออกไป พร้อมทั้ง อันโตนี่ ที่ฟอร์มถดถอยลงทุกที ต่างไปจากช่วงต้นซีซั่นให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ลงบู๊แทน

กาเซมีโร่ แมนยู

4. เทน ฮาก คิดผิดทำ กาเซมีโร่ โดนแบน?

เป็นเรื่องเกินความคาดหมาย เช่นกันที่โผ 11 ตัวจริงของ แมนฯ ยูไนเต็ด นัดบุกมาเยี่ยม พาเลซ มี กาเซมีโร่ ออกสตาร์ตทั้ง ๆ ที่เขาสะสมใบเหลืองไปแล้วสี่ใบเนื่องจากผู้สันทัดกรณี คาดว่า เทน ฮาก น่าจะเก็บมิดฟิลด์ คนสำคัญพักเอาไว้บู๊กับ อาร์เซน่อล มากกว่า

รวมทั้งแล้ว เรื่องที่แฟน ผีแดง ไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้นจนกระทั่งได้ในช่วงสิบนาทีสุดท้ายเมื่อ กาเซมีโร่ จำเป็นจะต้องต้องตัดฟาวล์จังหวะ อันตรายป้องกัน ไม่ให้ วิลฟรีด ซาฮา กระชากบอลเข้าเขตโทษ พร้อมรับใบเหลืองซึ่งจะมีผลให้ดาวเตะแซมบ้า ชวดฟาดเกือกกับ เดอะ กันเนอร์ส ตามกฎกติกาอันอาจบอกได้ว่าเป็นการตัดสินใจ ที่ผิดพลาดอีกประเด็นของ เทน ฮาก

อย่างไรก็ดี เกมแรกที่ ผีแดง เปิดบ้านเอาชนะ อาร์เซน่อลได้ 3-1 เทน ฮาก ไม่ได้ส่ง กาเซมีโร่ ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง แฟนบอล ผีแดง ก็เลยต้องรอลุ้นกันว่าทีมรัก จะย้ำแค้น จ่าฝูงได้สำเร็จ หรือจะเสียศูนย์ติดต่อกันเป็นนัดที่สอง

ผีแดง แมนยู

5. สถิติที่ แมนยู โดนทำลาย

นับจากออกสตาร์ต ครึ่งหลัง พาเลซ เดินเกมรุกอย่างดุดัน แล้วก็สร้างปัญหาให้กับ ผีแดง เป็นระยะ

กระทั่งเข้าสู่ครึ่งทาง แมนฯ ยูไนเต็ด ดูเสมือนอ่อนระโหยโรยแรง ไม่อาจเก็บครองบอลได้ดีราวกับช่วงครึ่งแรก แล้วก็ถูกจู่โจม ใส่แดนอันตรายมากขึ้นเป็นลำดับ

จนกระทั่งในที่สุดช่วงทดเวลา อาคันตุกะก็เสียท่าให้กับเจ้าบ้านจนกระทั่งได้เมื่อเสียลูกฟรีคิก ระยะอันตราย แถม ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ซัดตุงตาข่ายอย่าง งดงามซะด้วย และก็ส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีเวลามากพอที่จะ ควานหาประตูที่สองโดยจำเป็นต้องต้องแบ่งแต้มให้กับ ดิ อีเกิ้ลส์ ไปตามระเบียบ

จากสถิติในครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลได้มากกว่า 63:37% รวมทั้งได้ยิง 10 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง ขณะที่ พาเลซ ได้ยิง 3 ครั้ง เข้ากรอบ 1 ครั้ง

จากนั้นหลังจบ 90 นาที สถิติฟ้องให้ เห็นว่า ผีแดง ออกอาการป้อแป้ และทำได้แค่เสมอจนกระทั่งได้ ด้วยเหตุว่า พาเลซ สบโอกาสสับไกเพิ่มขึ้นรวม 10 ครั้ง รวมทั้งเข้ากรอบ 5 ครั้งซึ่งมีอยู่สองครั้ง มองเห็น ๆ ที่ ดาบิด เด เคอา ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟ ขณะที่ทีมเยี่ยมได้ยิงรวม 15 ครั้ง แล้วก็เข้ากรอบน้อยกว่าซะอีกแค่ 4 ครั้งเท่านั้นแม้เปอร์เซนต์การครองบอลจะยังเหนือกว่า 61:39%

จากผลสรุปดังกล่าว ทำให้ทีม ผีแดง แมนยู

เสียสถิติยิงนำก่อนแล้วก็ชนะรวด 100% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยก่อนหน้านี้พวกเขาชนะมาตลอด 15 นัดในเกม พรีเมียร์ลีก แม้สามารถขึ้นนำทีมคู่แข่งได้ก่อน

แต่ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น ผลเสมอที่ลอนดอน ทำให้โอกาสลุ้นคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ลดลงไปอย่างน่าเสียดายเพราะว่าพวกเขาไม่อาจลดช่องว่างของคะแนนที่มีกับทีมจ่าฝูงได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยก่อนที่ทั้งสองทีมจะบู๊กันที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในวันอาทิตย์นี้

ออสเตรเลียน โอเพ่น 2023

"นาดาล-ยอโควิช" งานเบาประกบคู่ ออสเตรเลียน โอเพ่น 2023

“แชมป์เก่า” ราฟาเอล นาดาล และ โนวัค ยอโควิช เจองานไม่หนัก ในการประเดิม สนามรอบแรก ศึกเทนนิส ออสเตรเลียน โอเพ่น 2023 แกรนด์สแลมแรกขอปี ที่ประเทศออสเตรเลีย

ฝ่ายจัดการแข่งขัน เทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น แกรนด์สแลม แรกของปี ที่ประเทศออสเตรเลีย ได้ทำการจับสลาก ประกบคู่ประจำปี 2023 ปรากฎว่า ในประเภทชายเดี่ยว รอบแรก ราฟาเอล นาดาล มือวางอันดับ 1 ของรายการ และก็แชมป์เก่ารายการนี้จากประเทศสเปน เจองานไม่หนัก เมื่อจะประเดิมสนามพบกับ แจ็ค เดรเปอร์ มือ 40 ของโลก

จากสหราชอาณาจักร ขณะที่ โนวัค ยอโควิช มือ 4 ของรายการจากเซอร์เบีย จะพบกับ โรเบร์โต้ การ์บาเยส บาเอน่า มือ 75 ของโลกจากสเปน ส่วน แคสเปอร์ รุด มือ 2 ของรายการ จะเจอกับ โทมัส มาชาค มือ 115 ของโลกจากสาธารณรัฐเช็ก

โนวัค ยอโควิช

ด้านประเภทหญิงเดี่ยว อิก้า สเวียเท็ก มือ 1 ของโลกจากประเทศโปแลนด์ เจองานไม่หนักเช่นกัน เมื่อจะประเดิมสนามพบกับ ยูล นีไมเยอร์ มือ 68 ของโลกจากเยอรมนี ขณะที่ ออนส์ จาเบอร์ มือ 2 ของโลกจากตูนิเซีย พบกับ ทามาร่า ซิดานเช็ก มือ 88 ของโลกจาก สโลวีเนีย ด้าน ดาเนียลล์ คอลลินส์

รองแชมป์เก่า เมื่อครั้งที่แล้วจากสหรัฐฯ พบกับ แอนนา คาลินสกาย่า มือ 64 ของโลกจากรัสเซียโนวัค ยอโควิช คว้าแชมป์รายการที่ 92 ในอาชีพ หลังจากชนะ ในศึกเทนนิส แอดิเลด อินเตอร์เนชันแนล 1

เทนนิสเอทีพี ทัวร์ 250 รายการแอดิเลด อินเตอร์เนชั่นแนล (1) รายการอุ่นเครื่องก่อนเข้าศึก ออสเตรเลียน โอเพ่น 2023 ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงแชมป์ โนวัค ยอโควิช อดีตมือ 1 ของโลก ที่ตอนนี้รั้งอันดับ 5 โลก รวมทั้งผู้ครอบครองแชมป์ 21 แกรนด์สแลม เจอกับ เซบาสเตียน คอร์ด้า มืออันดับ 33 ของโลกจากสหรัฐ ปรากฏว่า ยอโควิช มือ 5 ของโลก เป็นฝ่ายชนะไป 2-1 เซต สกอร์ 6-7 (8-10), 7-6 (7-3), 6-4 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ แล้วก็ถือเป็นแชมป์ในทัวร์รายการที่ 92 ในอาชีพ พร้อมรับเงินรางวัล ประมาณ 3.2 ล้านบาท

นอกนั้นยังเป็น การเรียกความมั่นใจก่อน ฝ่าออสเตรเลียน โอเพ่น ในสัปดาห์หน้า ที่ยอโควิช เป็นแชมป์มากสุด 9 สมัย หลังจากปีที่แล้ว ไม่ได้ลงเล่นรวมทั้งถูกขับออกนอกประเทศ เพราะเหตุว่าไม่ยอมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19

ราฟาเอล นาดาล

‘นาดาล’ ลั่นร่างกายฟิตปั๋ง พร้อมป้องกันแชมป์ ออสซี่ โอเพ่น

ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสมือ 2 ของโลกชาวสเปน เปิดเปิดเผยว่า ในรายการ อุ่นเครื่องที่ประเทศออสเตรเลีย 2 รายการก่อนศึกแกรนด์สแลม “ออสเตรเลียน โอเพ่น” ที่จะเริ่มตันในวันที่ 16 มกราคม ตนเองยังไม่เล่นได้

ตามมาตรฐานที่เคยเป็น แต่ก็มีความสุขดีกับการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะไปลุ้นป้องกันแชมป์ ตอนนี้สภาพร่างกายดีมาก ๆ แต่ก็ต้องไปโชว์ ฟอร์มที่ดีในการแข่งขัน เนื่องจากมีเป้าหมาย ที่จะคว้าแชมป์ให้ได้อีกที

“จากการฝึกแล้วก็แข่งขันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้มั่นใจว่าถ้าหากทำได้ดีแบบนี้ ก็มีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ได้” นาดาลกล่าว

นักหวดประเทศสเปน กล่าวถึงการที่เป็น พ่อลูกอ่อน และก็ยังต้องแข่งเทนนิส อาชีพ ว่า ต้องปรับตัวกับเรื่องใหม่ ๆ ในชีวิต ด้วยเหตุว่าเป็นครั้งแรกที่มีลูก ต้องใช้เวลา ในการทำให้ทุกอย่าง กลับมาคงที่ดังเดิม แต่คนรอบข้างก็ช่วยทำให้ก้าวผ่านไปได้ แบบไม่มีปัญหาเลย

นาดาล ยังคงเป็นนักกีฬาเทนนิส ที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลม ประเภทชายเดี่ยว ได้มากที่สุด ที่ 22 รายการ รองลงมาเป็นโนวัก โยโควิช มือ 5 ของโลกจากเซอร์เบีย ทำได้ 21 รายการ

ศึกเทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น

เฟเดอเรอร์ หวังลงเล่นคู่ นาดาล ก่อนปิดฉากอาชีพในเลเวอร์คัพ และ ออสเตรเลียน โอเพ่น 2023

โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ผู้ครอบครองแชมป์แกรนด์สแลม 20 รายการ วัย 41 ปี ที่ประกาศจัดแจงแขวนแร็กเก็ต หลังจบการแข่งขันเลเวอร์คัพ ที่จะแข่งขันกัน ได้เปิดเผยว่า ถ้า เขาได้จับคู่ลงแข่งกับ ราฟาเอล นาดาล ที่เป็นราวกับคู่แข่งในสนามแข่งขัน ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา จะเป็นสิ่งที่ดีมาก

เฟดเอ็กซ์ ออกมาเปิดเผยในงานแถลงข่าวสารครั้งแรกที่โอทู อารีน่า ว่า การแข่งขันประเภทคู่ในวันศุกร์นี้ จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่เขาก้าวลงสนามแข่งขัน ในฐานะนักเทนนิสอาชีพ ซึ่งเขาหวังว่าจะได้จับคู่กับนาดาล คู่แข่งขันตลอดกาล เพื่อเป็นสัญลักษณ์ ให้กับวงการเทนนิสว่า คู่อริ ก็เป็นเพื่อนกันได้”

ศึกเทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น 2023

“สำหรับผมแล้วการลงสนามร่วม กับใครก็ตามถือเป็น สิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะเหตุว่าผมไม่ได้ ลงแข่งขัน ในสนามมาเป็นเวลานาน แล้วก็ผมรู้ดีว่านั่น จะเป็นบรรยากาศที่ดี มากกับแฟน ๆ ในสนาม แต่แน่นอนว่าถ้าเป็นนาดาล ผมคิดว่าจะเป็นเรื่องแปลกที่เราจะลงแข่งขันด้วยกันในแมตช์สุดท้ายของผม”

“ผมมีความคิดว่าจะเป็น สถานการณ์ที่แปลกใหม่ ถ้าเกิดมันเกิดขึ้นจริง เนื่องจากพวกเราได้ต่อสู้กันมาตลอด และก็มีความเคารพ ให้แก่กันมาตลอด ทั้งครอบครัว และก็ทีมโค้ช ผมรู้สึกว่าเราเข้ากันได้มาตลอด ส่วนตัวสำหรับเรา ตลอดเส้นทางอาชีพ

ที่ผ่านมาพวกเราได้ต่างพบกับผลการแข่งขัน ที่แตกไม่เหมือนกัน แต่ก็ยังสามารถ รักษาความสมาคมที่ดีได้ ผมมีความคิดว่านี่จะเป็นข้อความ ที่ดีที่เราจะบอก ไม่ใช่แค่สำหรับวงการ เทนนิส แต่ในกีฬาชนิดอื่น ๆ หรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ่งผมคิดว่าจะเป็นเหตุผล ที่ทำให้แมตช์นี้ยิ่งใหญ่มาก”

กุน อเกวโร่

ไม่ใช่แค่ชูถ้วยเล่น ๆ !! “กุน” ได้รับเหรียญแชมป์โลกพร้อมเพื่อนอาร์เจนตินา

สื่อดังอังกฤษ รายงาน ” กุน อเกวโร่ ” อดีตกองหน้าทีมชาติ อาร์เจนตินา ถูกใส่ชื่อเป็นทีมสตาฟฟ์ ในเกมรอบชิงชนะเลิศแล้วก็จะได้รับเหรียญแชมป์โลก

givemesport สื่อดังของประเทศอังกฤษ เปิดเปิดเผยว่า สาเหตุที่ เซร์คิโอ อเกวโร “กุน” อดีตกองหน้าทีมชาติ อาร์เจนตินา สามารถลงไปร่วมฉลองแชมป์โลก กับนักเตะในสนามแข่งขัน รวมถึงชูถ้วยแชมป์โลกร่วม กับทีมได้ เนื่องจากว่าสมาคม ฟุตบอลอาร์เจนติน่า ได้ใส่ชื่อของเขา เป็นทีมสตาฟฟ์ในเกมรอบชิงแชมป์ ซึ่งไม่ใช่แค่สามารถร่วมฉลองกับนักเตะได้เท่านั้นกุน ยังได้รับเหรียญรางวัลแชมป์โลก 2022 อีกด้วย

ทั้งนี้กุน ต้องแขวนสตั๊ด ไปเมื่อช่วงปลายปี 2021 ที่ผ่านมา หลังถูกตรวจพบว่า มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ อย่างไรก็ตามเขา ถูกเชิญให้เข้าไปร่วม ในแคมป์ทีมชาติอาร์เจนติน่า ในช่วงก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศ เพื่อมาเป็นสตาฟฟ์โค้ช รวมถึงรูมเมท ของ ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีม เพราะว่าทั้งสองเป็นเพื่อนซี้กัน

กุน อเกวโร่ กับเบื้องหลังในการช่วยอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก

ถ้าหากไม่นับ ลิโอเนล เมสซี่ แล้ว นักเตะชาวอาร์เจนตินา ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด หลังจบเกมชิงแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 คงหนีไม้พ้น เซร์คิโอ อเกวโร ที่ไม่เพียงแต่จะสร้างสีสัน ด้วยการตีกลองเฉลิมฉลองในสนาม แต่ยังได้รับเกียรติ ให้ชูถ้วยแชมป์โลก อย่างกับเป็นหนึ่งในสมาชิก ของทีมชุดนี้ ทั้งที่ตัวของอเกวโร ก็ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลไปครู่หนึ่งแล้ว

นี่คือเรื่องราว ของตำนานชาวอาร์เจนตินา อีกหนึ่งคน ที่ถึงแม้จะไม่ได้ร่วมลงสนาม กับเพื่อนร่วมชาติที่กาตาร์ แต่เขาไม่เคยจากทีมไปไหน แล้วก็ยังคงเป็น สมาชิกของกองทัพฟ้าขาวตลอดมา และก็นี่คือเรื่องราวของ เซร์คิโอ อเกวโร่ กำลังใจสำคัญ ของทีมชาติอาร์เจนตินาในฟุตบอลโลก 2022

เมสซี่ขี่คอกุน อเกวโร่

ไม่มีกุน ไม่มีเมสซี
ย้อนกลับไปก่อน ทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์ จะเริ่ม มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ ว่า ลิโอเนล เมสซี จะลงแข่งขันรายการฟุตบอลโลก 2022 โดยไม่มีเพื่อนร่วมห้อง อย่างที่เคยเป็นมา ซึ่งเหตุผลของการตัดสินใจครั้งนี้คือ

กัปตันทีมหมายเลข 10 ต้องการมุ่งสมาธิ ไปยังฟุตบอลโลกครั้งสุดท้าย ของตนเองอย่างถึงที่สุด จึงปฏิเสธจะร่วมห้องกับรูมเมโทคนไหนในทีมชุดนี้

อย่างไรก็ตาม เหตุผลแท้จริงที่ทุกคน เข้าใจกันดีอยู่แล้วเกี่ยวกับการเลือกห้องเช่าของเมสซี่ ในบอลโลกทีนี้ คือการขาดหายไปของเพื่อนซี้ เซร์คิโอ อเกวโร่ เพราะว่านับตั้งแต่ศึกโอลิมปิก 2008 เป็นต้นมา เมสซี่ไม่เคย พักร่วมกับนักฟุตบอลอาร์เจนตินารายอื่น เว้นเสียแต่อเกวโร่ นั่นก็เลยไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ทั้งสองจะสนิทกันมาก จนถึงเมสซี่ยอม อเกวโร่เป็นพ่อทูนหัว ลูกชายของเขา

ทั้งสองต่างร่วม สู้ศึกเพื่อทีมชาติอาร์เจนตินาจนถึงทัวร์นาเมนต์โคปา อเมริกา 2021 ซึ่งการแข่งขัน รายการดังกล่าวจบ ลงด้วยความมีชัยของทัพฟ้าขาว นี่คือการคว้าแชมป์ในระดับนานาชาติครั้งแรกของเมสซี่ แถมเจ้าตัวยังกวาด รางวัลดาวซัลโว แล้วก็นักฟุตบอลเยี่ยมที่สุดของทัวร์นาเมนต์ โดยเบื้องหลังความสำเร็จคราวนั้น อเกวโร่คือผู้ที่ยืน อยู่เคียงข้างเมสซี่เสมอ

การลงเล่นฟุตบอลโลก 2022 โดยมีอเกวโร่เคียงข้าง จึงน่าจะสร้างความสบายใจ ให้กับเมสซี่เป็นอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่เรื่องราวนั้น เกือบจะไม่เกิดขึ้น หลังอเกวโร่ตัดสินใจ ประกาศแขวนสตั๊ดแบบกระทันหัน เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพเรื่องโรคหัวใจ เมสซี่จึงต้องเดินทางสู่กาตาร์ โดยปราศจากรูทเมท คนเดิมที่ร่วมห้องกันมาอย่างยาวนานถึง 13 ปี

แต่เมื่อฟุตบอลโลก 2022 เดินทางเข้าใกล้การแข่งขัน นัดชิงชนะเลิศทุกขณะ แม้แต่นักฟุตบอล ที่เก่งที่สุดในโลกก็ไม่สามารถรับแรงกดดัน เพียงลำพังได้ เขาต้องการสักคนมาอยู่เคียงข้าง รวมทั้งคอยให้คำปรึกษาในช่วงเวลานอกสนาม

กุน อเกวโร่ เมสซี่

กุน ก็เลยถูกเรียกตัว สู่แคมป์ทีมชาติอาร์เจนตินา

เพื่อรับบทบาทบาท “เพื่อนร่วมห้องของเมสซี่” ซึ่งเจ้าตัวเดินทางสมทบ เพื่อนร่วมชาติในทันที โดยไม่แสดงให้เห็นถึงความลังเลถึงแม้แต่น้อย

รอยยิ้มของเมสซี่ก็เลยกลับมา รวมทั้งชีวิตชีวา ในแคมป์อาร์เจนตินายังคงก้าวเดินต่อไป อย่างไรก็ดี การมาของอเกวโร่ครั้งนี้ไม่ได้คืนรอยยิ้มแก่ กัปตันทีมหมายเลข 10 ของทัพฟ้าขาวเท่านั้น แต่มันยังคืนรอยยิ้ม ของอเกวโร่ที่ โบกมือลา โลกลูกหนังอย่างกระทันหัน เมื่อปีก่อนด้วยเหมือนกัน

เคียงข้างกองทัพฟ้าขาวตลอดมา

ความจริงแล้ว เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้รับคำเชิญ ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ของทีมชาติอาร์เจนตินา ตั้งแต่ก่อนทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2022 จะเริ่มต้น แต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธคำเชิญนี้ โดยให้เหตุผลว่าเขาต้องการสนุกกับการแข่งขัน ที่กาตาร์ในฐานะแฟนบอลมากกว่า

แต่ชีวิตในฐานะแฟนบอล ของอเกวโร่กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เริ่มต้นด้วยการที่เขาซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางสู่กาตาร์ ก่อนพบว่าบนเครื่อง เต็มไปด้วยแฟนบอลชาวบราซิล ตามมาด้วยการถูกกีดกันไม่ให้เข้าสู่แคมป์ทีมชาติอาร์เจนตินา

เหตุเพราะสมาคมฟุตบอลตระเตรียมเอกสารไม่ทัน ทำให้อเกวโร่ ไม่สามารถเข้าแคมป์ได้อย่างถูกต้อง จนอดให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีม ก่อนทัพฟ้าขาวปราชัยแก่ซาอุดิอาระเบีย 1-2

เมื่อเวลาผ่านไป และบรรดาทีมงานอาร์เจนตินาเริ่มตระหนักได้ว่า อเกวโร่อาจ เป็นตัวนำโชคของพวกเขา อดีตกองหน้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เลยถูกเชิญเข้าสู่แคมป์ของอาร์เจนตินาในช่วงก่อนนัดชิงแชมป์ โดยเขาจะไม่ทำหน้า ที่เป็นรูมเมท ของเมสซี่เท่านั้น แต่อเกวโร่จะก้าวมาเป็นหนึ่งในทีมสตาฟฟ์ แถมยังลงฝึกฝนกับขุนพลทีมชาติอาร์เจนตินาอีกต่างหาก

เมสซี่

หวังป้องกันแชมป์? เมสซี่ ยันแล้วยังไม่เลิกรับใช้แผ่นดินเกิด

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า ประกาศชัดเจนว่าจะยังรับใช้ชาติถัดไป หลังประสบความสำเร็จพาทีม ฟ้าขาว คว้าตำแหน่ง แชมป์โลก 2022 มาเชยชมจากการพิชิต ฝรั่งเศส ด้วยการดวลลูกโทษตัดสินเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค.

เมสซี่ เคยให้สัมภาษณ์ กับสื่อว่าศึก ฟุตบอลโลก 2022

จะเป็นการร่วมฟาดแข้ง ในรายการนี้ เป็นครั้งสุดท้ายของเขาก่อนบอกลาทีมชาติ เพราะเหตุว่าในอีกสี่ปีข้างหน้า เขาจะมีอายุ 39 ปีซึ่งสูงอายุมากเกินไป

อย่างไรก็ดี ดาวเตะทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไม่ได้ระบุชัดว่าจะโบกมือลาทีมชาติ ทันทีหรือไม่หลังสิ้นสุดภารกิจที่ กาตาร์ แล้วก็ล่าสุดเจ้าตัวได้เอ่ยว่าจะยังรับ ใช้แผ่นดินเกิดต่อไป แต่ไม่ชัดเจนว่าเขาหวังพาทีมป้องกันแชมป์ในปี 2026 หรือเปล่า

“ผมยังไม่รีไทร์จากทีมชาติ อาร์เจนติน่า” เมสซี่ เอ่ยกับสื่อหลังจบเกมชิงชนะเลิศดวลกับ แชมป์เก่า

“ผมต้องการเล่นต่อในฐานะแชมป์ เราเหนื่อยกันมาก แต่พวกเราเป็น แชมป์โลก แล้วในตอนนี้”

“ผมต้องการเล่นต่อ ผมไม่อาจขออะไรมากกว่านี้ ได้อีกแล้ว ขอบคุณพระเจ้า ที่มอบทุกอย่างให้ผม”

ลิโอเนล เมสซี่

ขณะเดียวกันนี้เมสซี่ ได้โพสต์ข้อความลงบนอินสตาแกรมด้วยเหมือนกัน

“แชมป์โลก! ผมฝันถึงสิ่งนี้มาหลายทีแล้ว ผมต้องการมันมาก ผมไม่ต้องการจะเชื่อเลย…”

“ขอบคุณครอบครัวของผมเป็นอย่างสูง แล้วก็ทุกคนที่สนับสนุน ผมซึ่งเชื่อถือในตัวเรา”

“เราแสดงให้มองเห็นอีกรอบถึงความเป็นชาว อาร์เจนไตน์ ซึ่งพวกเราต่อสู้ด้วยกัน รวมทั้งเป็นหนึ่งเดียวกันจนกระทั่งประสบความสำเร็จอย่างที่พวกเราตั้งเป้าเอาไว้”

“ขอยกความดี ความชอบ ให้กับนักฟุตบอล ทุกคน มันเป็นการต่อสู้โดยมีความฝันร่วมกันซึ่งเป็นความฝันของชาว อาร์เจนไตน์…พวกเราทำสำเร็จแล้ว!”

ต่อการประกาศดังกล่าวของ เมสซี่เชื่อว่าเขาอาจรับใช้ชาติถัดไปจนถึงปี 2024 เพื่อป้องกันแชมป์ โกปา อเมริกา ที่ตัวเขาเองประสบความสำเร็จได้แชมป์รายการดังกล่าวเป็นครั้งแรกในชีวิต เหมือนกันเมื่อปี 2021

เข้าทำเนียบตำนาน! เมสซี่แข้งรายที่ 9 สร้างประวัติศาสตร์ลูกหนังโลก

ลิโอเนล เมสซี่กองหน้ากัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา สร้างตำนานกลายเป็นผู้เล่นรายที่ 9 ในหน้าประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และก็ บัลลงดอร์ ตลอดอาชีพนักฟุตบอล

ดาวเตะวัย 35 ปีซึ่งเดี๋ยวนี้โลดแล่นอยู่กับปารีส แซงต์-แชร์กแมง สโมสรในศึกลีก เอิง ประเทศฝรั่งเศส ทำสถิติลงเล่นในศึกเวิลด์ คัพ รอบสุดท้ายมากที่สุด 26 เกมแซงหน้า โลธ่าร์ มัทเธอุส ตำนานทีมชาติเยอรมนี

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า

นอกเหนือจากนี้ ตำนาน “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า เพิ่งทำลายสถิติดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติ อาร์เจนตินาในฟุตบอลโลกที่เคยเป็นของ กาเบรียล บาติสตูต้า ด้วยการยิงไปแล้ว 13ประตู

ตอนนี้ เมสซี่ สร้างตำนานบทใหม่ในอาชีพเมื่อนำกองทัพ “ฟ้าขาว” ผงาดคว้าแชมป์เวิลด์ คัพ 2022 ด้วยการคว่ำ ฝรั่งเศส ด้วยการดวลจุดโทษชนะ 4-2 หลัง 120 นาทีเสมอ 3-3 ทำให้เขาเข้าทำเนียบนักเตะรายที่ 9 ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก, ยูโรเปี้ยน คัพหรือแชมเปี้ยนส์ ลีก แล้วก็ บัลลงดอร์

ทำเนียบนักฟุตบอลอาชีพที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (ยูโรเปี้ยน คัพ) แล้วก็บัลลงดอร์

1. บ็อบบี้ ชาร์ลตัน

ฟุตบอลโลก 1966 (อังกฤษ); ยูโรเปี้ยน คัพ 1968 (แมนฯ ยูไนเต็ด); บัลลงดอร์ 1966

2. ฟร้านซ์ เบ็คเคนเบาเออร์

ฟุตบอลโลก 1974 (เยอรมันตะวันตก); ยูโรเปี้ยน คัพ 1974, 1975, 1976 (บาเยิร์น); บัลลงดอร์ 1972, 1976

3. แกร์ด มุลเลอร์

ฟุตบอลโลก 1974 (เยอรมันตะวันตก); ยูโรเปี้ยน คัพ 1974, 1975, 1976 (บาเยิร์น); บัลลงดอร์ 1970

4. เปาโล รอสซี่

ฟุตบอลโลก 1982 (อิตาลี); ยูโรเปี้ยน คัพ 1985 (ยูเวนตุส); บัลลงดอร์ 1982

5. ซีเนดีน ซีดาน

ฟุตบอลโลก 1998 (ฝรั่งเศส); แชมเปี้ยนส์ ลีก 2002 (เรอัล มาดริด); บัลลงดอร์ 1998

6. ริวัลโด้

ฟุตบอลโลก 2002 (บราซิล); แชมเปี้ยนส์ ลีก 2003 (เอซี มิลาน); บัลลงดอร์ 1999

7. โรนัลดินโญ่

ฟุตบอลโลก 2002 (บราซิล); แชมเปี้ยนส์ ลีก 2006 (บาร์เซโลน่า); บัลลงดอร์ 2005

8. กาก้า

ฟุตบอลโลก 2002 (บราซิล); แชมเปี้ยนส์ ลีก 2007 (เอซี มิลาน); บัลลงดอร์ 2007

9. ลิโอเนล เมสซี่

แชมเปี้ยนส์ ลีก 2006, 2009, 2011, 2015 (บาร์เซโลน่า); บัลลงดอร์ 2009, 2010, 2011, 2012, 2015, 2019, 2021

ฟุตบอลโลก

วงการ กีฬาจีน สู่อุตสาหกรรมโลก ฟุตบอลโลก

งวดเข้ามาทุกทีสำหรับแชมป์ ฟุตบอลโลก “กาตาร์ 2022” ที่เต็มไปด้วยความ “พลิกล็อก” แต่ก็เป็นเสน่ห์ให้ผู้คนอยากติดตามชมการแข่งขันกันมากขึ้น …

การเป็นเจ้าภาพของกาตาร์ในครั้งนี้ต้อง ฟันฝ่ายอุปสรรค และความท้าทาย ไล่ตั้งแต่หลังการได้รับการ คัดเป็นเจ้าภาพ ที่มีกลิ่น “เงินใต้โต๊ะ” โชยมาแรง จนกระทั่งทำเอากาตาร์ ถูกครหา และคณะผู้บริหารระดับที่ค่อนข้างสูง และเจ้าหน้าที่ของฟีฟ่า (FIFA) ซึ่งเป็นองค์กรจัดงานหลัก โดนซักถามในคดีรับสินบน กันมากมาย

ขณะเดียวกัน ช่วงเวลาของการแข่งขันที่ แตกต่างไปจากธรรมเนียมเดิม ที่ปกติจัดในช่วงกลางปี มาเป็นช่วงปลายปีเพื่อหลีกเลี่ยงสภาพอากาศที่ร้อนระอุ ในกาตาร์ในช่วงฤดูร้อน ก็กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่สร้างความไม่พอใจกับลีกฟุตบอลของหลายประเทศ โดยยิ่งไปกว่านั้นอย่างยิ่งในยุโรป ที่ต้องปรับเปลี่ยนตารางครั้งใหญ่

หลายลีกดัง ในยุโรปที่เริ่มเปิดฤดูกาลไปในระยะแรก ก็มีนักเตะบาดเจ็บจำนวนมากและ พลาดโอกาสในการร่วม แสดงฝีเท้าที่กาตาร์ในครั้งนี้ ขณะที่นักเตะบางส่วนที่ทีมของตนเองเข้ารอบลึกก็กังวลใจกับอาการ บาดเจ็บ มากขึ้นหลัง จบการแข่งขันฟุบอลโลก เพราะว่าต้องไปลุย ฟุตบอลลีกกันต่อแบบไม่ได้ “พักน่อง” กัน

ขณะเดียวกัน โดยที่กาตาร์ มีอิสลามเป็น ศาสนาประจำชาติ ทำให้มีข้อกฎหมายและธรรมเนียม ปฏิบัติของท้องถิ่น ที่แตกต่างและเข้มงวดกว่าของหลายประเทศ ส่งผลให้ผู้ช่วยเหลือการแข่งขันบางรายก็สูญเสียโอกาสในการจำหน่ายสินค้าของตนเองที่ขัดกับหลักศาสนา อาทิ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ขณะที่แฟนบอลที่คุ้นเคยกับการ “ซดเบียร์ เชียร์บอล” ก็อาจรู้สึกเสียอารมณ์ไปบ้าง

ยิ่งกว่านั้น เจ้าภาพยังโดนข้อติเตียน เกี่ยวกับประเด็นสิทธิ มนุษยชน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือ กลุ่มคน LGBTQ แล้วก็แรงงาน ต่างชาติ ที่เข้ามาทำงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยว ข้องในกาตาร์ ซึ่งทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตของแรงงานนับพันคนอีกด้วย

อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นความท้าทายใหญ่ ของเจ้าภาพก็คือ การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในช่วง 3 ปีหลัง ส่งผลให้การจัดการแข่งขัน “อยู่บนเส้นด้าย” และขาดความแน่นอนอยู่นาน โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์หลายคนยังเกรงว่ากาตาร์จะเจอ “โรคเลื่อน” หรือจำต้องจัดการแข่งขันใน “ระบบปิด” เลยก็มี

ถ้าหากจำความกันได้ การแข่งขันโอลิมปิก ฤดูร้อนที่โตเกียว และโอลิมปิกฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งถือเป็นกิจกรรมด้านกีฬาใหญ่ที่ถูก จัดไปก่อนหน้านี้ ต้องต้องจัดการแข่งขันแบบ “ระบบปิด” ที่เกือบไม่มีคนดูในสนาม ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวท้องถิ่นและต่างชาติไม่อาจเดินทางไปร่วมชมการแข่งขันได้ ส่งผลให้การจัดการ แข่งขันลดสีสันและความน่าสนใจไปมาก แถมผู้จัดงานยังสูญเสีย รายได้และโอกาสทางเศรษฐกิจอื่นเป็นจำนวนมหาศาล

ถึงแม้กระทั่งแขกรับเชิญพิเศษของไทย ท่านหนึ่งที่เดินทางไปร่วมงานที่กรุงปักกิ่งก็ยังบ่นว่า การเข้าร่วมงานในคราวนั้น “ไม่สามารถกระดิกตัวไปไหนได้เลย” โดยใช้เวลาทั้งหมดอยู่ที่โรงแรมที่พักและสนามแข่งขันเท่านั้น ขนาดจะขอแวะเข้าห้องสุขาระหว่างทาง ก็ยังทำไม่ได้ ทำให้ไม่อาจซึมซับ ความงดงามของบ้านเมืองและการต้อนรับของเจ้าภาพได้ดีเท่าที่ควร

กาตาร์ 2022

แต่เมื่อ ฟุตบอลโลก ครั้งนี้ใกล้เข้ามา

กาตาร์ก็ดูจะ “มากับดวง” กล่าวคือ เชื้อโควิดอ่อนล้าลงในช่วงหลัง ประเทศต่าง ๆ ทั่วทั้งโลกมีมุมมอง “ที่ต้องอยู่กับโควิด” ทำให้เริ่มคลายล็อก และเปิดให้มีการเดินทางระหว่าง ประเทศกันจนกระทั่งเกือบเป็นปกติ แถม “กาตาร์ 2022” ก็ยังเป็นกิจกรรมใหญ่แรกในยุคหลังโควิด

นอกจากการทุ่มเงินขยาย สนามบินระหว่างประเทศฮาหมัด (Hamad International Airport) รถไฟใต้ดิน สนามฟุตบอล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมพรั่งอย่างที่คุยกันไปเมื่อคราวก่อนแล้ว พวกเรายังได้เห็นความพยายามของกาตาร์ ในการสั่งสมประสบการณ์จัดการแข่งขันกีฬาระดับระหว่างประเทศมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีหลัง อาทิ การจัดแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ แฮนด์บอลล์ชายโลก และกรีฑาชิงแชมป์โลก

ด้วยจังหวะเวลาที่ดี ดังกล่าว การตระเตรียมการจัดงาน ที่ดีเยี่ยมที่สุด และความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเอาจริงเอาจังของกาตาร์ ทำให้แฟนบอลที่รอรอเวลามานาน ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

จนกระทั่งกลางเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตั๋วนั่งชมฟุตบอลกว่า 3 ล้านใบได้ ถูกจำหน่ายล่วงหน้าไปแล้ว โดยยิ่งไปกว่านั้นอย่างยิ่งผู้คนในประเทศใกล้เคียงจากซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ แล้วก็คอลูกหนังจากบราซิล อาร์เจนตินา สหรัฐฯ เม็กซิโก อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และโมร็อกโค ที่ทีมชาติของตนเองเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ใน วงการกีฬาประเมินว่า ฟีฟ่าจะมีรายได้จากการจัดการแข่งขันในครั้งนี้มากกว่าเมื่อคราวที่จัดขึ้นที่รัสเซียในครั้งก่อนถึง 5,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

จากข้อมูลดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า การเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกของกาตาร์ช่วยสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะสั้น ทั้งยังจากการลงทุนก่อสร้างและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งสร้างงานใหม่ราว 1.5 ล้านตำแหน่ง

สำนักงาน ส่งเสริมการลงทุน แห่งกาตาร์ (Investment Promotion Agency of Qatar) เปิดเปิดเผยว่า นับแต่ปี 2010 ที่กาตาร์ได้รับคัดให้เป็นเจ้าภาพ เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวในอัตราเฉลี่ย 4.5% ต่อปี ขณะที่กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ของกาตาร์ก็บอกว่า แม้ว่าจะต้องพบเจอกับวิกฤติโควิด ในช่วงหลายปีหลัง แต่โอกาสด้านการค้าและการลงทุนที่เกี่ยวกับการเตรียมพร้อมงานและการดำเนินการ จัดฟุตบอลโลกยาวไปจนกระทั่งปี 2023 รวมจำนวน 83 โครงการ

ยิ่งกว่านั้น ยังมีสัญญาณเชิงบวกจากการเพิ่มขึ้นของโครงการลงทุน โดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่หลั่งไหลเข้าสู่กาตาร์ในหลากหลายสาขาธุรกิจ อาทิ บริการให้คำแนะนำทางธุรกิจ การโฆษณา การตลาด และด้านไอที อาทิ ซอฟท์แวร์ ระบบปฏิบัติการ และแอพพลิเคชั่น แล้วก็ฟินเทค และการท่องเที่ยว

ดังเช่นว่า เจ้าพ่อวงการดิจิตัลอย่างกูเกิ้ล (Google) เปิดสำนักงาน ท้องถิ่น คลาวด์ระดับภูมิภาค และศูนย์แห่งความยอดเยี่ยม ขณะที่ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เจ้าแห่งซอฟท์แวร์ ก็เปิดคลาวด์ระดับภูมิภาคและศูนย์นวัตกรรมเพื่อให้บริการลูกค้าท้องถิ่น

ไอไลฟ์ดิจิตัล (iLife Digital) จากสหรัฐฯ ลงทุนตั้งโรงงานผลิตส่วนประกอบอุปกรณ์ไอทีที่เขตฟรีโซนกาตาร์ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างแรงงาน 1,500 ตำแหน่ง ส่วนกลุ่มยูบีเอส (UBS Group) แห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก็วางแผนจะเปิดศูนย์ธุรกิจครบวงจรแห่งใหม่ในกรุงโดฮา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบริการการเงินดิจิตัลและการพัฒนาเด็กพรสวรรค์ในท้องถิ่น แล้วก็จะดึงผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิตัล 200 คนเข้าไปในพื้นที่ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

ทำนองเดียวกันก็ขยายผลทางเศรษฐกิจต่อไปยังประเทศอื่นในตะวันออกกลาง ส่งผลให้สัดส่วน FDI ในภูมิภาคต่อโลกเพิ่มขึ้นจาก 5% เศษในปี 2019 เป็นกว่า 8% ในปี 2021

ฟุตบอลโลก กีฬาจีน

เมื่อการแข่งขันเริ่ม คิกออฟ

ก็ทำให้เกิดการขยายตัวของการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง แบรนด์แฟรนไชส์โรงแรมชั้นนำอย่างฮิลตัน (Hilton) มาร์ริออต (Marriott) และเซ็นทารา (Centara) ของไทยที่ได้เข้าไปลงทุนและขยายบริการในกาตาร์ในช่วงหลายปีหลัง ก็คาดว่าจะมีแฟนบอลจองห้องเช่าเต็มตลอดการแข่งขัน

และมาถึงวันนี้ การเป็นเจ้าภาพของกาตาร์ก็ผ่านไปด้วยดี ได้รับความชื่นชมจากแขกรับเชิญพิเศษ แฟนบอล และสื่อมวลชนทั่วทั้งโลก ซึ่งจะช่วยให้ชาวโลกรู้จะกาตาร์มากขึ้น และเสริมสร้างชื่อผ่านการเป็นเจ้าภาพ “จัดงานใหญ่”

ประเทศในภูมิภาคต่างคาดหวังว่า “พลังละมุน” ในครั้งนี้จะ “{ทรงพลัง” และช่วยเพิ่มประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะยาว หลายประเทศยังต้องการสร้าง “จุดขายใหม่” ในด้านธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยว การกีฬา และการรักษาพยาบาลในเวทีระหว่างประเทศเพื่อนำไปสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยตระเตรียมสานต่อกระแสดังกล่าวผ่านกิจกรรมมากมาย

อาทิ อาบูดาบี บาห์เรน และซาอุดิอาระเบีย ตระเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันรถยนต์สูตร 1 (Formula One) ทัวร์นาเมนต์กอล์ฟระหว่างประเทศที่อาบูดีบี เทนนิสที่ดูไบ และอี-สปอร์ตในหลายประเทศในภูมิภาค โดยใช้สื่ออัล จาซีรา (Al Jazeera) ของกาตาร์ ที่พัฒนาขึ้นเป็นศูนย์กลางสื่อของโลกอาหรับช่วยประโคมข่าว

นักวิเคราะห์ของ PWC ยังประเมินไว้ว่า วงการกีฬาในตะวันออกกลางจะขยายตัวถึง 8.7% ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า เทียบกับอัตราเฉลี่ยของโลกที่ 3% ยิ่งกว่านั้น กาตาร์ยังตระเตรียมสานต่อกระแสดังกล่าวผ่านการเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์ในปี 2030 แต่ “การพนันครั้งใหญ่” ดังกล่าวจะเกิดคุ้มค่าการลงทุนและก่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจอื่นในระยะยาวหรือไม่ อย่างไร เป็นคำถามที่รอคำตอบ

ครั้งหลังผมจะชักชวนคุยเรื่องการเป็นผู้ช่วยเหลือ “กาตาร์ 2022” ของแบรนด์จีนที่ตามมาด้วย “ควันหลง” …

กาตาร์

“กาตาร์” รื้อถอนสนาม974 หลังเกม “บราซิล-เกาหลี”

เกมคู่ระหว่างบราซิล เจอ เกาหลีใต้ เมื่อคืนที่ผ่านมา คือเป็นเกมสุดท้ายที่จะใช้งาน 974 สเตเดียม 1 ใน 7 สนามที่ กาตาร์ สร้างขึ้นสำหรับ ฟุตบอลโลกในศึกฟุตบอลโลก 2022 ก่อนที่สนามแห่งนี้ จะถูกรื้อถอนรวมทั้งนำวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ส่งต่อให้ประเทศที่ต้องใช้อุปกรณ์เหล่านั้นถัดไป

สำหรับ 974 สเตเดียม คือสนามกีฬาชั่วคราวแห่งแรก ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ที่สร้างมาจากตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 974 ตู้ เพื่อแสดงให้มองเห็นถึงประวัติศาสตร์การ ออกเรือของกาตาร์

นอกจากนี้ยังเป็นการประหยัด ทุน รวมทั้งรักษาสิ่งแวดล้อมเพราะเหตุว่า 974 สเตเดียม เป็นสนามที่ไม่ติดเครื่องปรับอากาศ โดยจะใช้แข่งขันในช่วงเย็นจนถึงค่ำเท่านั้น ซึ่งตามรายงานก่อนหน้าที่ผ่านมาระบุว่า กาตาร์ประเมินแล้วว่า จะไม่สร้างสนามใหญ่โต เพราะเหตุว่าต้องใช้งบประมาณในการดูแลจำนวนมาก

หลายคนอาจตั้งตารอ ‘การแข่งขันฟุตบอลโลก’ หรือ ‘FIFA World Cup’ ประจำปี 2022 ที่มีกาตาร์เป็นประเทศเจ้าภาพ ซึ่งกาตาร์นับว่าเป็นประเทศแรกในตะวันออกกลางที่ได้เป็นผู้จัดการแข่งขันฟุตบอลระหว่างประเทศโปรแกรมนี้ อีกหนึ่งความพิเศษที่หลายฝ่ายให้ความสนใจก็คือ ‘สเตเดียม’ ที่สามารถถอดประกอบได้รวมทั้งยังประหยัด พลังงานในการก่อสร้างด้วย

จุดประสงค์ของการออกแบบก็เพื่อลดทุน ลดขยะจากการก่อสร้าง รวมทั้งประหยัด เวลาในการก่อสร้างด้วย มากไปกว่านั้น ทางผู้ออกแบบยัง เปิดเผยว่า การสร้างสเตเดียมแห่งนี้ สามารถลดการใช้น้ำได้มากถึง 40% เมื่อเทียบกับการก่อสร้างสนามกีฬาทั่วไป Stadium 974 จึงกลายเป็นสนามกีฬาที่ทั้งรักษ์สิ่งแวดล้อมรวมทั้งประหยัดพลังงานด้วย

สนาม974

ตู้คอนเทนเนอร์ที่ กาตาร์ ใช้ส่วนมากนั้น

ถูกใช้เพื่อสร้างส่วนต่าง ๆ ข้างนอกสนามกีฬา แต่ก็มีบางตู้ที่ประกอบไปด้วยบันได ร้านขายของขนาดเล็ก รวมถึง ห้องสุขา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่แฟนบอลที่จะเข้าชมการแข่งขัน ส่วนรูปทรง รวมทั้งช่องว่างระหว่างที่นั่งยังช่วยให้อากาศระบายได้ตามธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศ เพราะเหตุว่ามีลมจากทะเลที่อยู่ใกล้ ๆ ช่วยให้ความเย็น

สำหรับชื่อของสเตเดียมนั้นมีความหมายแฝงอยู่ ตัวเลข ‘974’ เป็นรหัสโทรศัพท์ ระหว่างประเทศของ กาตาร์ รวมทั้งยังเป็นจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดที่ใช้ก่อสร้างสถาปัตยกรรมแห่งนี้ โดยในจำนวนนี้ หลายตู้ถูกใช้ เพื่อขนส่งวัสดุก่อสร้างมายังพื้นที่รวมทั้งถูกนำมาใช้งานต่อ นอกเหนือจากนั้น ตู้คอนเทนเนอร์ ยังเป็นสัญลักษณ์เพื่อแสดงถึง ประวัติศาสตร์การออกเรือรวมทั้งมรดกทาง อุตสาหกรรมของกาตาร์อีกด้วย

Stadium 974 คือหนึ่งในสนามกีฬาที่จะใช้จัดการแข่งขัน FIFA World Cup 2022 ที่นี่จะถูกใช้จัดการแข่งขันทั้งหมด 7 นัด ซึ่งรวมทั้งนัดแรกที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2022 ด้วย โดยหลังจากจบการแข่งขันในปี 2022 สนามกีฬาแห่งนี้จะถูกรื้อรวมทั้งนำไปประกอบในสถานที่ใหม่ หรืออาจดัดแปลงเป็นสถานที่จัดงานขนาดเล็กสำหรับจุดประสงค์อื่น ๆ

ด้านคณะกรรมการสูงสุดของการแข่งขัน FIFA World Cup Qatar 2022 (SC) ระบุว่า Stadium 974 ที่เด่นแห่งนี้จะเป็นสัญลักษณ์แห่งความยั่งยืนรวมทั้งนวัตกรรมที่น่าภูมิใจ รวมทั้งยังหวังว่าโปรเจกต์นี้จะเป็น ‘พิมพ์เขียวด้านนวัตกรรม’ ในการออกแบบสเตเดียมที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับจัดกิจกรรมใหญ่ๆในอนาคต

เต็งแชมป์ไม่ไว้หน้า! บราซิล มาตามนัดอัด เกาหลีใต้ ลิ่ว 8 ทีมดวล โครเอเชีย

“เซเลเซา” ผลงานสมราคา เต็งแชมป์ รวมพลังเรียงหน้าทุบ “เกาหลีใต้” 4-1 โดยเกมนี้ เนย์มาร์ คืนสนามซัด 1 ตุงจ่อขยับสถิติทาบ เปเล่ พาทีมลอยลำเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ดวล โครเอเชีย วันที่ 9 ธ.ค. นี้ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

สนาม : สเตเดี้ยม 974

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ กาตาร์ ประจำวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2565 บราซิล เต็งแชมป์ เจอ เกาหลีใต้ ผู้แทนจาก เอเชีย

บราซิล ของเทรนเนอร์ ติเต้ ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาได้ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม จี โดยเกมล่าสุดแพ้ให้กับ แคเมอรูน มา 0-1 ทางด้าน เกาหลีใต้ ของเทรนเนอร์ เปาโล เบนโต้ พลิกล็อคเอาชนะ โปรตุเกส 2-1 ทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม เอช

เปิดฉากครึ่งแรกเพียง 7 นาที บราซิล ทะยานออกนำ 1-0 จากจังหวะขึ้นเกมทางขวา ราฟินญ่า พาแหวกเข้าเขตโทษหักเข้าในหลุดมาเสาไกลถึง วินิซิอุส จูเนียร์ ล่อเป้าแบบไม่มีตัวประกบผ่าน คิม ซึง-กิว ตุงตาข่าย

นาทีที่ 11 “เซเลเซา” ขยับหนีเป็น 2-0 จากความผิดพลาดของ จอง วู-ยอง เสียเหลี่ยมโดน ริชาร์ลิซอน สอดมาฉกบอลกลายเป็นหวดโดนคนเสีย จุดโทษ รวมทั้งเป็น เนย์มาร์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปอย่างเยือกเย็น

6 นาทีต่อมา “โสมขาว” ออกหมัดบ้าง ฮวาง ฮี-ชาน เก็บบอลหน้าเขตโทษฝั่งซ้ายโยกเข้าในลองปั่นด้วยขวาระยะร่วม 30 หลาโค้งหวิด เสียบใต้คานติดปลายมือ อลิสซง เบ็คเกอร์ นิดหนึ่ง

ต่อมานาทีที่ 29 บราซิล ยำเพิ่มเป็น 3-0 จากจังหวะประสานงานสุดสวย กาเซมีโร่ ขยับมาเชื่อมบอลหน้ากรอบ 18 หลาเบิ้ลเร็วคืนให้ ริชาร์ลิซอน หลุดกับดักล้ำหน้าแปสวนตัว คิม ซึง-กิว ตุงตาข่ายงามหยด

นาทีที่ 36 ประตูที่ 4-0 มาตามนัดตอนนี้เป็น วินิซิอุส จูเนียร์ ตามมาเก็บบอลในเขตโทษฝั่งซ้ายดึงจังหวะยกบอลข้ามมาให้ ลูคัส ปาเกต้า สอดมาชาร์จกระดอนพื้นซุกหน้าต่างเสาไกลไม่พลาด

ช่วงทดเจ็บ “เซเลเซา” ขับเคลื่อนไม่มีผ่อน ราฟินญ่า เก็บบอลหน้าเขตโทษฝั่งขวายกต่อให้ ลูคัส ปาเกต้า สอดมาหน้ากรอบ 6 หลาดีดไปตรงตัว คิม ซึง-กิว ตบทิ้งออกมาได้ทัน

นาทีที่ 45+4 ริชาร์ลิซอน หลุดเดี่ยวขึ้นมาจากครึ่งสนามกระชากเข้าเขตโทษฝั่งขวาซัดไปติดเท้า คิม ซึง-กิว เด้งเข้าทาง เนย์มาร์ ซ้ำไม่ทันปลิ้นข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

หมดครึ่งเวลาแรก บราซิล 4 เกาหลีใต้ 0

เริ่มครึ่งหลัง “โสมขาว” ยังเมาหมัดเสียบอลพื้นที่อันตรายสุดท้ายเป็น ราฟินญ่า พาแตะเข้าเขตโทษฝั่งขวาโยกเข้าซ้ายข้างถนัดแต่ซัดไม่เต็มเบาเข้ามือ คิม ซึง-กิว

นาทีที่ 47 เกาหลีใต้ พลาดโอกาสทองจากบอลยาวทางซ้าย มาร์กินญอส เสียเหลี่ยมโดน ซน ฮึง-มิน ตัดหน้ามาเก็บก้มหัวปั่นด้วยขวาติดแขน อลิสซง เบ็คเกอร์ ออกมาเร็วเซฟไว้ได้ทัน

ต่อมานาทีที่ 54 “เซเลเซา” เฉียดบวกสกอร์เพิ่ม ราฟินญ่า สอดมารับบอล ในเขตโทษฝั่งขวาตัดเข้าซ้ายดึงได้ช่องแป แหวกบล็อคแนวรับ เกาหลีใต้ ติดเซฟ คิม ซึง-กิว ล้มไปควักออกมาเหลือเชื่อ

60 นาทีผ่าน เนย์มาร์ โชว์ท่าทางโดนหวดช่วยทีมได้ลูกฟรีคิกระยะอันตรายหน้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนมีน้ำใจให้ ราฟินญ่า รับหน้าที่ปั่นแฉลบบล็อคโค้งหลุดเสาแรกไม่ไกล

2 นาทีต่อมา เนย์มาร์ พยายามปั้นน้องเต็มที่เก็บบอลทางซ้ายตัดเข้าในแทงข้ามมาให้ ราฟินญ่า เก็บในเขตโทษดึงเข้าขวาตะบันสุดแรงยัดเสาแรกก็ยังไม่ผ่าน คิม ซึง-กิว

นาทีที่ 69 จากจังหวะครอสทางซ้ายบอลโค้งเข้าเขตโทษติดหัวแนวรับ บราซิล กระแทกสกัดไม่ดีกลายเป็นตั้งให้ ฮวาง ฮี-ชาน หวดสวนตูมเดียวติดเซฟ อลิสซง เบ็คเกอร์ ปัดเข้าทาง ซน ฮึง-มิน ตามซ้ำก็ยังติดบล็อค มาร์กินญอส

ต่อมานาทีที่ 76 “โสมขาว” ตีไข่แตก 4-1 กระทั่งได้เป็นลูกฟรีคิกทางฝั่งขวาบอลลอยไปติดหัว กาเซมีโร่ กระแทกสกัดย้อนมาเข้าทาง เพค-ซึงโฮ หวดสวนด้วยซ้ายระยะร่วม 20 หลาแฉลบ ติอาโก้ ซิลวา พุ่งเสียบเสาแรกงามหยด

10 นาทีสุดท้าย เกาหลีใต้ แทบไล่มาอีกลูกจากบอลยาวทิ้งให้ โช กยู-ซอง โฉบเอาชนะแนวรับ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาซัดล่อเป้าติดเซฟ อลิสซง เบ็คเกอร์ ก่อนโดนจับ ล้ำหน้า

หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม บราซิล 4 เกาหลีใต้ 1

 

กาตาร์สนาม974

รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม

บราซิล (4-1-2-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ (เวเวอร์ตัน น.80) – เอแดร์ มิลิเตา (ดานี่ อัลเวส น.63), มาร์กินญอส, ติอาโก้ ซิลวา, ดานิโล (เกลย์สัน เบรเมอร์ น.72) – กาเซมีโร่ – ลูคัส ปาเกต้า, เนย์มาร์ (โรดริโก้ โกเอส น.80) – ราฟินญ่า, ริชาร์ลิซอน, วินิซิอุส จูเนียร์ (กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ น.72)

เกาหลีใต้ (4-2-2) : คิม ซึง-กิว – คิม มุน-ฮวาน, คิม มิน-แจ, คิม จีซู (ฮอง ชุล น.46), อี แจ-ซอง (อี คัง-อิน น.74) – จอง วู-ยอง (ซอน จุน-โฮ น.46), ฮวาง อิน-บอม (เพค-ซึงโฮ น.65), ฮวาง ฮี-ชาน – ซน ฮึง-มิน – โช กยู-ซอง (ฮวาง อุย-โจ น.80)

ผู้ตัดสิน : เคลม็องต์ ตูร์แปง (ฝรั่งเศส)